หากใครหลายคนกำลังกังวลว่าโน๊ตบุ๊คของคุณจะทำงานไม่เร็วอย่างที่เคยเป็น อย่ากังวลมากเกินไป ปัญหาทั่วไปอย่างหนึ่งที่จะพบกับโน๊ตบุ๊คคือการทำงานที่ช้าลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้งานมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว โชคดีที่มีบางสิ่งที่คุณสามารถทำได้เอง เพื่อให้โน๊ตบุ๊คของคุณกลับมาทำงานได้เร็วอย่างที่เคยเป็น มันอาจจะง่ายพอกับการถอนการติดตั้งโปรแกรมที่ทำให้เกิดปัญหา จนไปถึงการล้างทั้งเครื่องโน๊ตบุ๊คของคุณ
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการเพิ่มความเร็วให้โน๊ตบุ๊คของคุณ เรามีวิธีต่าง ๆ สองสามวิธีที่คุณสามารถทำได้ หลายคนสามารถทำงานกับโน๊ตบุ๊คที่ช้าได้ แต่คำแนะนำครั้งนี้อาจจะส่งผลให้โน๊ตบุ๊คทำงานได้เร็วมากขึ้น บทความต่อไปนี้คือเคล็ดลับ และกลเม็ดบางประการที่เกี่ยวกับวิธีเพิ่มความเร็วให้กับโน๊ตบุ๊คของคุณ กับ 10 วิธีง่าย ๆ ในการเพิ่มความเร็วให้โน๊ตบุ๊ค 2022
1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีโปรแกรมที่เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ
ทุกครั้งที่คุณเปิดใช้งานโน๊ตบุ๊คเข้าสู่ Windows การทำงานของโปรแกรม Start Up ต่าง ๆ ก็จะเริ่มต้นการทำงานพร้อมกัน ถ้าหากคอมพิวเตอร์ของคุณมีโปรแกรม Start Up จำนวนมาก จะส่งผลให้คอมพิวเตอร์ของคุณพร้อมทำงานได้ช้าลง เนื่องจากต้องรอให้โปรแกรม Start Up ต่าง ๆ ทำงานจนครบก่อน อีกทั้งยังเปลืองพื้นที่บน RAM (Random Access Memory)เป็นอย่างมากอีกด้วย
หากคุณใช้ Windows คุณสามารถตรวจสอบการทำงานของโน๊ตบุ๊คของคุณ โดยการเข้าไปที่ System Configuration > Startup ละเลือกไปที่ Open TasK Manager จะแสดงสถานะโปรแกรมทั้งหมดที่กำลังทำงานอยู่ หลังจากนั้นให้เลือกโปรแกรม Start Up ต่าง ๆ ที่เราคิดว่าไม่จำเป็น แล้วให้เราทำการ Disable จบการทำงานของมัน
หากคุณใช้ Mac คุณสามารถตรวจสอบการทำงานของโน๊ตบุ๊คของคุณ โดยการเข้าไปที่ Applications > Utilities > Activity Monitor จะแสดงสถานะโปรแกรมทั้งหมดที่กำลังทำงานอยู่
หากโน๊ตบุ๊คของคุณเริ่มทำงานช้าลง หรือมีแรมที่น้อยมากเช่น 4 – 8 GB การปิดโปรแกรม Start Up ที่ไม่จำเป็นคือสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คอมพิวเตอร์ของคุณเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่นอน
2. ลบโปรแกรมทั้งหมดที่คุณไม่ได้ใช้งาน
สิ่งที่พบเห็นได้เป็นประจำอย่างหนึ่ง คือโน๊ตบุ๊คสำหำรับเพื่อน และครอบครัว จะมีโปรแกรมที่มากมายไม่จำเป็น หรือโปรแกรมที่ไม่เคยใช้มาก่อน บางคนอาจจะดาวน์โหลดโปรแกรมมาใช้อยู่สองสามครั้ง แล้วไม่เคยใช้โปรแกรมนั้นอีกเลย
สิ่งที่เขาไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านี้ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลบนโน๊ตบุ๊คของคุณ และอาจจะส่งผลให้เครื่องของคุณทำงานได้ช้าลง ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือเคลียร์โปรแกรมเหล่านั้นทั้งหมดที่คุณไม่ได้ใช้
การเคลียร์พื้นที่เก็บข้อมูลของคุณเป็นอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณทำงานได้เร็วขึ้น หากมีโปรแกรมที่ไม่จำเป็น หรือไม่ได้ใช้ ให้ดำเนินการลบโปรแกรมนั้นทิ้งได้เลย หมั่นตรวจสอบโปรแกรมเหล่านี้ให้เป็นประจำ เพื่อตรวจเช็คว่าโน๊ตบุ๊คของคุณทำงานไปกับโปรแกรมอะไรบ้างที่ไม่จำเป็น และนี้คืออีกหนึ่งวิธีคือการกำจัดโปรแกรมทั้งหมดที่คุณไม่ได้ใช้งาน
3. อัพเดทระบบปฏิบัติการ
ไม่สำคัญว่าคุณกำลังใช้ระบบปฏิบัติการไหน ไม่ว่าจะ Windows OS หรือ Mac OS หากคุณไม่ได้อัพเดทมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เหตุผลนี้อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญอีกข้อ ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณทำงานได้ช้าลง คุณสามารถตั้งค่าโน๊ตบุ๊คของคุณ อัพเดทช่วงข้ามคืนได้ เพื่อที่จะสามารถกลับมาใช้งานในเวลาต่อมาได้
คุณต้องหมั่นตรวจสอบให้แน่ใจ ว่าซอฟต์แวร์ และเฟิร์มแวร์ทั้งหมดของโน๊ตบุ๊คของคุณได้รับการอัพเดทแล้ว ซึ่งรวมถึงไดรเวอร์ทั้งหมดของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับของโน๊ตบุ๊คคุณ หากคุณกำลังใช้ระบบปฎิบัติการเวอร์ชั่นที่เก่า เช่น Windows 7 หรือ Windows 8 อยากให้หันมาลองใช้ Windows 10 อาจจะส่งผลให้โน๊ตบุ๊คของคุณทำงานได้เร็วขึ้น
4. ล้างแคช
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เบราว์เซอร์ของคุณทำงานได้ช้าลง คือการไม่ได้ล้างคุกกี้ หรือแคชเป็นประจำ เมื่อคุณท่องเว็บไซต์ต่าง ๆ เบราว์เซอร์ของคุณจะจัดเก็บข้อมูลชั่วคราวไว้ในแคชของเว็บไซต์ การล้างแคช และคุกกี้จะช่วยแก้ปัญหาการโหลด หรือการจัดรูปแบบในเว็บไซต์ของคุณ ทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณใช้งานได้เร็วขึ้น
โดยทั่วไปแคชจะได้รับการออกแบบมาเพื่อทำให้เว็บเบราว์เซอร์ของคุณทำงานได้เร็วขึ้น แต่กลับไม่ได้ผลเช่นนั้นเสมอไป บางครั้งอาจส่งผลเสียต่อความเร็วของคุณโดยรวม การล้างไฟล์เหล่านี้อาจจะช่วยให้โน๊ตบุ๊คของคุณทำงานได้เร็วขึ้นเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็น Windows หรือ Mac การล้างแคช และคุกกี้สามารถช่วยโน๊ตบุ๊คของคุณทำงานให้เร็วขึ้นได้
5. ตรวจสอบส่วนขยายของ Toolber
หากคุณพบว่าเบราว์เซอร์ของคุณทำงานช้าลง มีอีกหนึ่งสิ่งที่คุณสามารถทำได้ เพื่อให้เบราว์เซอร์ของคุณกลับมาทำงานได้อย่างรวดเร็วเช่นเคย การตรวจสอบว่าคุณมีส่วนขยายว่ามีส่วนขยายใดที่ส่งผลต่อเบราว์เซอร์ของคุณ ทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณทำงานได้ช้ากว่าปกติ
ดังนั้นการตรวจสอบส่วนขยายที่คุณมี และตรวจดูให้แน่ใจว่ามีส่วนขยายใดที่เป็นสาเหตุของปัญหาที่ทำให้เบาวร์เซอร์ของคุณทำงานได้ช้าลง คุณสามารถตรวจสอบได้โดยไปที่ตัวจัดการ หรือ Task Manager ของเบราว์เซอร์ ยกตัวอย่าง Google Chrome ซึ่งจะแสดงกระบวนการทั้งหมดที่กำลังทำงานอยู่บนโน๊ตบุ๊คของคุณ อาจเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณทำงานช้ากว่าปกติ
คลิ๊ก >> วิธีใช้ Task Manager ของ Google Chrome
6. ตรวจสอบไวรัส
โน๊ตบุ๊คที่ช้าลงเป็นสัญญาณบางอย่าง ที่กำลังบอกว่าโน๊ตบุ๊คของคุณกำลังติดไวรัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเครื่องโน๊ตบุ๊คของคุณเริ่มทำงานช้าลงอย่างกระทันหัน ไม่ว่าจะ Windows หรือ Mac ก็ตาม ไวรัสยังคงเป็นปัญหาทั่วไปสำหรับโน๊ตบุ๊ค ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้ว Mac จะตรวจจับมัลแวร์ได้ดี แต่ก็ยังเป็นเรื่องปกติที่จะติดไวรัสบน Mac
ไวรัสต่าง ๆ ที่อาจจะมาพร้อมแฟลชไดร์ฟที่คุณใช้งานกับเพื่อนร่วมงาน หรืออาจจะมาพร้อมกับเว็บไซต์ที่คุณคลิ๊กเข้าเว็บที่ไม่รู้จักโดยไม่ได้ตั้งใจ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่คุณสามารถต่อสู้กับไวรัสเหล่านี้ได้ คือการใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ดี ซึ่งสามารถช่วยให้คุณจัดการกับมัลแวร์ และไวรัส ที่กำลังทำร้ายโน๊ตบุ๊คของคุณ นี้เป็นอีกข้อที่สามารถเพิ่มความเร็วให้กับโน๊ตบุ๊คของคุณได้หากมีไวรัส
7. เรียกใช้ Defragment ( มีเฉพาะ Windows10 เท่านั้น )
หากคุณใช้ระบบปฏิบัติการ Windows คุณอาจต้องเรียกใข้ Defragment ในโน๊ตบุ๊คของคุณ หากคุณใช้ระบบปฏิบัติการ Mac คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าคุณใช้ Mac ระบบปฏิบัติการของ Mac สมัยใหม่จะทำการ Defragment อัตโนมัติให้กับโน๊ตบุ๊คของคุณ
ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้อนี้หากโน๊ตบุ๊คของคุณใช้ SSD คุณไม่ควรเรียกใช้ Defragment ซึ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ส่วนใหญ่การทำเช่นนี้ อาจส่งผลให้ไดรฟ์ของคุณเสียหายได้ ดังนั้นคุณไม่ควรใช้วิธีนี้หากคุณมี SSD
สำหรับโน๊ตบุ๊ครุ่นเก่าการเรียกใช้ Defragment สามารช่วยเร่งความเร็วให้กับโน๊ตบุ๊คได้ค่อนข้างง่าย การทำ Defrag ฮาร์ดดิสก์หรือ Disk Defragmenter ก็คือการทำการจัดเรียงข้อมูลของไฟล์ต่าง ๆ ที่เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก์ ให้มีความต่อเนื่องหรือเรียงเป็นระบบต่อ ๆ กันไป ประโยชน์ที่จะได้รับคือ ความเร็วในการอ่านข้อมูลของไฟล์นั้น จะมีการอ่านข้อมูล ได้เร็วขึ้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นถ้าหากมีไฟล์ที่เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก์ ที่มีการเก็บข้อมูลแบบกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป
เมื่อต้องการอ่าน ข้อมูลของไฟล์นั้น หัวอ่านของฮาร์ดดิสก์ก็จะต้องมีการเคลื่อนย้ายไปมาเพื่อทำการอ่านข้อมูลจบครบ หากเรามีการทำ Defrag ฮาร์ดดิสก์ แล้วจะทำให้การเก็บข้อมูลจะมีความต่อเนื่องกันมากขึ้น เมื่อต้องการอ่านข้อมูลนั้น หัวอ่านของฮาร์ดดิสก์จะสามารถอ่านได้ โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายหัวอ่านบ่อยหรือมากเกินไป จะทำให้ใช้เวลาในการอ่านได้เร็วขึ้น
8. ใช้เบราว์เซอร์อื่น
บางครั้งอาจพบได้ว่าเบราว์เซอร์ของคุณทำงานช้ามาก แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ได้แปลว่าโน๊ตบุ๊คทั้งหมดของคุณมีปัญหาเสมอไป อาจจะเป็นเฉพาะเบราว์เซอร์เท่านั้น การอัปเดตเบราว์เซอร์ของคุณเป็นประจำคือสิ่งสำคัญเช่นกัน แต่บางครั้งคุณอาจทำทุกอย่างถูกต้องแล้ว และยังคงพบกับเบราว์เซอร์ที่ล้าหลังไม่ได้อัพเดทมาเป็นเวลานาน นี่อาจเป็นเพราะไฟล์ชั่วคราวที่ทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณช้าลงไปจนถึงปัญหามัลแวร์
ในกรณีนี้ อาจเป็นความคิดที่ดี คุณอาจจะใช้เบราว์เซอร์อื่นดูบ้าง เพื่อดูว่าวิธีนี้ดีสำหรับคุณหรือไม่ หากคุณพบว่าเบราว์เซอร์ Chrome หรือ Firefox ของคุณทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณช้าลง การอัพเดทอาจจะช่วยลดปัญหาโน๊ตบุ๊คทำงานช้าลงได้
9. กำจัด bloatware หรือ โปรแกรมฟรีที่มากับเครื่อง
Bloatware คือแอปที่ติดตั้งมากับ Windows 10 โดยปัจจุบัน หากเราซื้อโน๊ตบุ๊ค หรือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะมาใหม่ ที่ไม่ใช่ DIY มักจะแถม Windows 10 Home มาให้ และมักแถมมาด้วย Bloatware จำนวนมาก เช่น Candy Crush Saga , MineCraft หรือโปรแกรมอื่น ๆ มากมายที่เรามักไม่ใช้ หากคุณรู้สึกว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ของคุณทำงานช้าลง เป็นไปได้ว่าอาจจะมี bloatware จำนวนมาก มาพร้อมซอฟต์แวร์เพิ่มเติมที่น่ารำคาญ หรือไม่ต้องการ เราเรียกสิ่งนี้ว่า bloatware
คุณสามารถกำจัดซอฟต์แวร์ใด ๆ ที่คุณไม่ต้องการได้อย่างง่ายได้โดยการ Uninstall สำหรับ Windows 10 นั้นเป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกตอนนี้ และก็เต็มไปด้วยความน่ารำคาญจาก Bloatware อย่างมาก เพียงแค่คุณกำจัด bloatware ที่ไม่ได้ใช้ออกไปให้หมด อาจจะช่วยให้โน๊ตบุ๊คของคุณทำงานได้รวดเร็วขึ้น
10. การอัพเกรดโน๊ตบุ๊ค
หากโน๊ตบุ๊คของคุณมีอายุมากกว่าสองสามปี หรือคุณซื้อรุ่นพื้นฐานของรุ่นที่มีอยู่ อาจเป็นไปได้ว่าโน๊ตบุ๊คของคุณไม่สามารถใช้งานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้โปรแกรมที่กินสเปคสูง หากคุณเป็นนักออกแบบ คุณอาจต้องอัปเกรดโน๊ตบุ๊คของคุณ
การเลือกเพิ่ม RAM อาจเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการปรับปรุงประสิทธิภาพของโน๊ตบุ๊คของคุณ โดยไม่ต้องลบ หรือลงโปรแกรมใหม่ คุณสามารถเพิ่ม RAM ในโน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่ได้ และคุณจะได้เห็นความแตกต่างระหว่าง RAM 8GB และ 16GB อย่างแน่นอน
คุณยังสามารถอัพเกรดที่เก็บข้อมูลของคุณได้เช่นกัน หากโน๊ตบุ๊คของคุณมีที่อัพเกรดเป็น SSD หากคุณได้โน๊ตบุ๊คที่มี RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่าปัจจุบัน จะช่วยให้โน๊ตบุ๊คของคุณทำงานได้เร็วขึ้นอย่างมาก
10 วิธีง่าย ๆ ในการเพิ่มความเร็วให้โน๊ตบุ๊ค 2022 ที่จะช่วยให้โน๊ตบุ๊คทำงานได้เร็วขึ้น การดูแลโน๊ตบุ๊คอย่างดีจะทำให้โน๊ตบุ๊คมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และใช้ประสิทธิภภาพได้อย่างเต็มที่ 10 ข้อที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน โดยที่ไม่ต้องเข้าร้านซ่อมคอมที่เราไม่คุ้นเคย หากมีอายุการใช้งานที่มีระยะเวลาหนึ่งแล้ว บางสิ่งเราก็ต้องเข้าใจในอายุการใช้งานของมัน ทุกสิ่งทุกอย่างมีอายุการใช้งาน แต่การอัพเดทสิ่งต่าง ๆ ภายใน และการตรวจสอบซอฟต์แวร์ของโน๊ตบุ๊คของคุณ เป็นสิ่งที่คุณสามารถดูแลได้ด้วยตัวของคุณเอง โดยไม่ต้องรอการอัพเกรด
ที่มา : under.co.th / facebook