อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ ๆ สำหรับผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นประจำไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือ ใช้งานทั่วไป มักจะพบปัญหาเกี่ยวกับอาการค้าง หรือ ขึ้น วงเล็บข้างโปรแกรมว่า “ไม่ตอบสนอง” หรือ “Not Responding” แน่นอนเลยว่ามันคือเรื่องที่ทำให้คุณหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก เพราะเรื่องนี้อาจจะใช้เวลาค่อนข้างนาน บางครั้งเปิดซ้ำก็ไม่ได้ หรือ ใครหลายคนอาจจะประสบปัญหาเครื่องค้างไปเลยก็มี แต่ทว่าสิ่งนี้สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ รวมทั้งสาเหตุนี้ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงคอมพิวเตอร์ของคุณเกี่ยวกับระบบการทำงานที่ผิดปกติอะไรบ้างอย่างแน่นอนบนเครื่อง ซึ่งวันนี้พวกเราจะมาเผยวิธีการแก้ไขเบื้องต้น อีกทั้งสิ่งที่ต้องรู้ และ การระมัดระวังที่อาจจะทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณมีปัญหาได้นั่นเอง ซึ่งรายละเอียดที่น่าสนใจจะมีดังต่อไปนี้
โปรแกรมค้าง แก้ไขอย่างไร ?
เมื่อเกิดปัญหาโปรแกรมค้าง มีการตอบสนองให้แค่ว่า Not Responding แน่นอนเลยว่านี่คือความผิดปกติบางอย่างของโปรแกรม หรือ คอมพิวเตอร์ของคุณ โดยวิธีแก้ไขโปรแกรมที่ค้างอยู่มีวิธีง่าย ๆนั่นก็คือ การใช้คีย์ลัดอย่าง Ctrl + Alt + Del โดยจะเป็น 3 ปุ่มที่ผู้ใช้งานคอมรู้จักกันเป็นอย่างดี เมื่อกดแล้วเลือกไปที่ Task Manger – Processes เลือกโปรแกรมที่ค้างอยู่แล้วกด End Task ทางด้านขวาล่าง เท่านี้เป็นอันเรียบร้อยโปรแกรมที่ค้างอยู่จะถูกปิดตัวลงไป
วิธีลบโปรแกรมค้าง เริ่มด้วยปุ่ม Ctrl + Alt + Del / Task Manger – Processes – เลือกโปรแกรมที่ค้างแล้วกด End Task
โปรแกรมค้าง สัญญาณบอกอะไร ?
อย่างไรก็ตามเมื่อพบปัญหาโปรแกรม Not Responding อาจจะเป็นปัญหาที่ใครหลายคนพบแล้วว่ามันคือเรื่องปกติทั่วไป แต่จะบอกในที่นี้แล้วว่านี่คือสัญญาณที่บ่งบอกเลยว่า อาจจะเปิดที่ตัวฮาร์ดแวร์ หรือ โปรแกรมที่มีปัญหาได้ รวมไปถึงการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่หนักเกินไปจนประมวลผลไม่ทัน ตัวอย่างเช่น สเปคคอมพิวเตอร์ที่ไม่รองรับการทำงานของโปรแกรม ก็อาจจะทำให้เกิดอาการค้าง หน่วง ขึ้น “ไม่ตอบสนอง” ได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นการใช้งานแต่ละโปรแกรมให้ใช้ Task Manager ตรวจสอบไปด้วย ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมที่จะใช้งานโปรแกรมนี้หรือไม่ ถ้าเห็นว่ามีการดึงใช้งานเกินกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป มีโอกาสสูงที่จะทำให้เครื่องค้างนั่นเอง ดังนั้นนี่คือสัญญาณว่าคุณอาจจะต้องตรวจสอบโปรแกรม สเปคคอมพิวเตอร์ของคุณว่าพร้อมใช้งาน และอาจจะต้องเปลี่ยนหรืออัพเกรดสเปคหรือไม่
แน่นอนเลยว่าปัญหานี้ใครหลายคนเจอบ่อย แต่ไม่ต้องตกใจ หรือ วิตกกังวลเกินไปว่าจะไปถึงขั้นคอมพิวเตอร์เสีย เพราะสามารถแก้ไขด้วยการลบโปรแกรมใหม่ แล้ว ติดตั้งใหม่ได้ เพราะบางครั้งไฟล์ติดตั้งอาจจะเสียที่เกิดขึ้นจากการดาวน์โหลดข้อมูล หรือ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการโหลดข้อมูลของ Windows ที่ผิดพลาดนั่นเอง แต่ทว่าสิ่งสำคัญคือสเปคของคอมพิวเตอร์จะต้องมีการอัพเกรดขึ้นตามกาลเวลา เพราะว่าโปรแกรมจะมีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากว่าคอมพิวเตอร์ของคุณเก่าเกินไปก็อาจจะเกิดปัญหานี้บ่อย ๆ ได้