โน้ตบุ๊คบางเครื่อง สเปคก็เทพ CPU แรง การ์ดจอโหด แต่ทำไมเล่นเกมแล้วกระตุก ทั้ง ๆ ที่เราเสียเงินซื้อโน้ตบุ๊คแต่ทำไมใช้งานได้ไม่ดีเหมือนที่เค้าโฆษณาเอาไว้ แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับโน้ตบุ๊คเกมมิ่งราคา 20,000 – 30,000 บาท ซึ่งโน้ตบุ๊คระดับนี้มักจะให้แรมมาเพียงแค่ 8 GB เท่านั้น ซึ่งนี่แหละคือต้นตอของปัญหาที่เราสามารถแก้ได้ง่าย ๆ
สำหรับโน้ตบุ๊ค Intel ไม่ว่าจะเป็น CPU Core i5 หรือ i7 ถ้าหากว่ามีแรม 8 GB จะทำให้เล่นเกมกระตุกอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเกมระดับ AAA ที่กินสเปคสูง ๆ หรือเกมกินสเปคกลางๆ อย่าง PUBG ก็จะมีอาการกระตุกให้เห็นเป็นช่วง ๆ เพราะว่า ในยุคปัจจุบันนี้แรม 8 GB เริ่มไม่เพียงพอกับนำมาเล่นเกมแล้ว ถึงแม้ว่าเกมนั้นมันก็พอที่จะเล่นได้ แต่ตัว CPU และการ์ดจอเองก็ไม่สามารถโชว์ประสิทธิภาพในการรีดเฟรมเรทออกมาได้อย่างเต็มที่
ดังนั้นวิธีแก้ง่าย ๆ ก็มีเพียงแค่ อัพเกรดแรมจาก 8 GB เป็น 16 GB เท่านั้นเอง แต่ต้องใช้แรม 2 แถว 8+8 GB ติดตั้งแบบ Dual Channel ถึงจะสามารถ รีดประสิทธิภาพออกมาได้ดีกว่าแรมแบบ 16 GB แถวเดียว
วิธีการอัพเกรดก็ง่าย ๆ เพียงแค่เปิดฝาหลังโน้ตบุ๊คออกมา และใส่แรมอีกแถวเข้าไปตรงสล๊อตแรมที่ยังว่างอยู่
ซึ่งการเลือกซื้อแรมนั้น จะเป็นยี่ห้อใดก็ได้ ขอเพียงแค่มี BUS แรมที่เท่ากับของเดิมก็พอแล้ว เช่น BUS 2666 MHz , 2999 MHz หรือ 3200 MHz ส่วนความจุจะใส่เป็น 8+8 GB หรือ 8+16 GB ก็สามารถใส่ได้ไม่ทำให้เกิดปัญหาอย่างแน่นอน
เมื่ออัพเกรดแรมเรียบร้อยแล้วเราก็มาทำการเปรียบเทียบให้ได้ชมกันระหว่าง แรม 8GB กับ 16 (8+8) GB กับโน้ตบุ๊ค MSI GS 66 Stealth 10se-228th
ทดสอบเกมแรกกับ Shadow of the Tomb Raider ด้วยการ Benchmark บนกราฟฟิกระดับสูงสุด ซึ่งจะเห็นว่าตัวเกมกินแรมไป มากถึง 9.1 GB แน่นอนว่าแรม 8GB ย่อมไม่พอ ซึ่งการเล่นเกมบนแรม 16 GB จะสามารถทำเฟรมเรทเฉลี่ยได้ดีกว่า
อีกหนึ่งเกมกับ Battlefield 5 ทดสอบบนกราฟฟิกระดับ Ultra ซึ่งตัวเกมใช้แรมไปถึง 10 GB แรม 8 GB ยังไงก็ไม่พอ ซึ่งการเล่นเกมด้วยแรม 16GB นั้นสามารถทำเฟรมเรทได้ดีกว่าประมาณ 10-15 FPS อีกทั้งยังเกิดการกระตุกระหว่างเล่นเกมน้อยกว่าแรม 8 GB อีกด้วย
นี่ก็เป็นวิธีง่าย ๆ สำหรับใครที่ซื้อโน้ตบุ๊คมาแล้วรู้สึกว่าเล่นเกมไม่ลื่น ก็ลองเช็คแรมดู ถ้าหากเป็นแรม 8 GB ก็ลองอัพแรม แล้วจะพบว่าสามารถเล่นเกมและทำงานอื่น ๆ ได้ดีมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน