ACER PREDATOR HELIOS 300 ถือเป็น Gaming notebook ระดับ Hi-end ที่จะทำคุณได้สัมผัสประสมการณ์ของ Gaming notebook ที่สมจริงกว่าเดิม โดย Acer Predator Helios 300 ไม่ได้มีดีที่หน้าตาอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมประสิทธิภาพตัวเครื่องที่เร็วแรงทะลุนรก จนไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความเป็นเกมเมอร์ของคุณได้ ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H Generation 10 รุ่นใหม่ล่าสุด แค่ดูจากชิปที่ใช้ก็พอจะเดาความแรงกันได้แล้วใช่มั๊ยคะ แต่ยังไม่หมดค่ะ ยังมาพร้อมการ์ดจอ NVIDIA® GeForce RTX 2070 Max-Q (8GB GDDR6) ให้ RAM มา 32 GB DDR4 2933 MHz ให้ความจำที่ SSD/HDD 1TB SSD M.2 มาพร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว (1920×1080) Full HD IPS 144Hz แถม Window 10 แท้ จะเป็นยังไงดูรีวิวิได้เลยค่ะ
Specification
ACER PREDATOR HELIOS 300
CPU Intel Core i7-10750H
GPU NVIDIA® GeForce RTX 2070 Max-Q (8GB GDDR6)
RAM 32 GB DDR4 2933 MHz
DISPLAY 15.6 ” (1920×1080) Full HD IPS 144Hz
SSD/HDD 1TB SSD M.2
OS Windows 10 Home (64 Bit)
Design
สำหรับการออกแบบของ Acer Predator Helios 300 มาในแนวเท่ห์ ดุดัน แต่แฝงความเรียบหรูอยู่ในตัว มาในโทนสีดำตัดด้วยสีน้ำเงินเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นสีเอกลักษณ์ของ Predator รุ่นตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา วัสดุตัวเครื่องทำจากโลหะอะลูมิเนียมเกือบทั้งหมด และด้วย Texture ของโลหะนอกจากจะให้ความแข็งแรง ทนทานให้กับตัวเครื่องแล้ว มันยังให้ความรู้สึกถึงความ premium และหรูหราให้กับตัวเครื่องอีกด้วย
โดยบริเวณบานฝาพับมีโลโก้ Predator สีเงินโครเมี่ยม พร้อมด้วยแสงไฟ LED สีน้ำเงินล้อมรอบถือเป็นเอกลักษณ์ของซีรีย์นี้เลยค่ะ อีกทั้งยังแซมด้วยแถบพลาสติกสีน้ำเงินขนาบข้างสวยงามเลยทีเดียวค่ะ
ถัดมาในส่วนของหน้าจอเป็นหน้าจอ IPS Full HD ขนาด 15.6 นิ้ว ที่มีความเร็ว refresh rate ถึง 144 Hz ทำให้การแสดงผลต่าง ๆ ทำได้อย่างลื่นไหล ถูกใจคอเกมเมอร์แน่นอน ไม่เพียงเท่านี้ยังให้ sRGB มาถึง 97% เลยทีเดียว จึงสามารถนำไปทำงานด้านสีสันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านตกแต่งภาพ การออกแบบ ที่ใช้งานร่วมกับโปรแกรม Ps, Ai, Lr ฯลฯ ก็ทำได้อย่างสบาย ๆ เรียกได้ว่าจะใช้เล่นเกมก็ได้ ทำงานก็ดีเลยหละค่ะ
หน้าจอที่ให้มาเป็นแบบผิวด้านลดการสะท้อนของแสงได้เป็นอย่างดี และแสงของหน้าจอที่ให้มาสามารถสู้แสงภายนอกได้ ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลหากจะนำไปใช้งานในที่ที่มีแสงจ้า อีกทั้งหน้าจอยังเป็นขอบบาง ทำให้มุมมองภาพที่ได้ดูกว้างมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ Predator Helios 300 ยังคงให้กล้องเว็บแคมและไมโครโฟนมาเหมือนเดิม
ถัดมาในส่วนของตัวเครื่อง มีช่องสำหรับดูดลมเข้าอยู่ด้านบนเรียงเป็นแถวยาวระหว่างตัวหน้าจอและคีย์บอร์ด แน่นอนว่าการเจาะช่องดูดลมเข้าในลักษณะนี้ มันจะช่วยให้อากาศสามารถถ่ายเทเข้าตัวเครื่องได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ตัวเครื่องสามารถระบายความร้อนได้ดีมากขึ้นนั้นเอง
ถัดมาที่ Panel keyboard เป็นแบบ Full key 104 ปุ่ม ที่มีแสงไฟ RGB แบบ 4 โซน สวยงามสมกับเป็น gaming notebook จริง ๆ ค่ะ โดยจุดเด่นของตัวคีย์บอร์ดคือเน้นปุ่ม WASD และปุ่ม Arrow key โดยถูกออกแบบมาให้เป็นขอบใสทำให้แสงไฟ RGB สามารถลอดออกมาได้มากยิ่งขึ้น ถูกใจคอเกม FPS แน่นอน
และยังมีปุ่มพิเศษอีก 2 ปุ่มที่อยากแนะนำ คือ ปุ่ม PredatorSense™ และ ปุ่ม Turbo โดยปุ่ม PredatorSense™ เป็นปุ่ม key ลัดที่จะทำให้เราสามารถเข้าไป Software PredatorSense ได้โดยง่าย ซึ่งความพิเศษของ Software ตัวนี้คือเราสามารถเข้าไปปรับแต่ง Mode การทำงานต่าง ๆ ของตัวเครื่องได้ ไม่ว่าจะเป็น การปรับ Overclock, รอบพัดลม, แสงไฟคีย์บอร์ด ต่าง ๆ ซึ่งหากเราปรับแต่ง mode ต่าง ๆ ของตัวเครื่องได้ตรงกับการใช้งานมากเท่าไหร่ แน่นอนว่าประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องก็ทำได้ดีมากขึ้นเท่านั้น
และในส่วนของปุ่ม Turbo เป็นปุ่มที่เกิดมาเพื่อ Overclock โดยเฉพาะ เมื่อเรากดที่ปุ่ม Turbo ตัวเครื่องจะทำการ Overclock แบบทันทีนั่นเอง แต่มีข้อแม้ว่าเราจะต้องทำการเสียบ adaptor ด้วยนะคะถึงจะใช้งานปุ่ม Turbo ได้
ในส่วนของ Numpad มีการปรับเปลี่ยน layout เล็กน้อยโดยการนำปุ่ม PredatorSense™ มาวางแทนที่ปุ่ม Num Lk ซึ่งอาจจะต้องมีปุ่มใหม่สักหน่อยแต่ก็เป็นเพียงจุดเล็ก ๆ เท่านั้นค่ะ ส่วนปุ่ม Power จะอยู่บริเวณมุมขวาบนของตัวเครื่อง
ถัดมาในส่วนของ Touchpad เป็นแบบซ่อนปุ่มที่ติดตั้งมาอย่างแน่นหนา สามารถ Touch ได้อย่างลื่นไหล และรองรับการใช้งานแบบ Multitouch ได้อีกด้วย
ในส่วนของสติ๊กเกอร์บริเวณซ้ายมือมี สติ๊กเกอร์ Intel core i7 Gen 10, NVIDIA Geforce RTX, และ Service hour ส่วนบริเวณขวามือมี เป็นสติ๊กเกอร์ Feature ต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Killer internet Wifi 6 ที่จะทำให้การรับส่งข้อมูลและการแสดงผลทาง online ทำได้เร็วขึ้นและยังรองรับ wifi 6 อีกด้วย อีกทั้งยังมี Feature DTS มาให้ นั่นคือมันจะแปลงหูฟังและลำโพงทุกคู่ให้เป็นระบบเสียงรอบทิศทาง 360° ทำให้การเล่นเกม ฟังเพลง หรือดูหนังมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของด้านหลังตัวเครื่องมีออกแบบมาอย่างสวยงามดูแล้วเหมือนท่อของเครื่องบินไอพ่นยังไงอย่างงั้น โดยด้านหลังตัวเครื่องมีช่องระบายความร้อนมาให้ 2 ช่อง และเมื่อเรามองลอดเข้าไปจะเห็นคีบฟินระบายความร้อนสีน้ำเงินอยู่ด้านใน ไม่เพียงเท่านี้ Predator Helios 300 เค้าได้ยังออกแบบให้มีการปิดท็อปด้วยโลหะสีเงินอีกชั้นหนึ่ง เพิ่มมิติและความสวยงามให้ตัวเครื่องไปอีกหนึ่งระดับ และช่องสำหรับ adaptor ก็จะอยู่บริเวณด้านหลังของตัวเครื่องเช่นกัน
Port การเชื่อมต่อของตัวเครื่องก็มีมาให้อย่างมากมาย เริ่มจากฝั่งขวามือมีดังต่อไปนี้
USB 3.2 type-c
USB 3.2 type-A รองรับ power delivery
HDMI
mini display port
และช่องระบายความร้อน 1 ช่อง
ในส่วนของฝั่งซ้ายมือ ให้ port มาดังต่อไปนี้
Jack 3.5 audio mic&headphone combo
2 x USB 3.2 type-A 2
RJ45
Kensington lock
และช่องระบายความร้อนอีก 1 ช่อง
โดยรวมแล้วตัวเครื่องมีช่องระบายความร้อนมาให้ถึง 4 ช่องเลยทีเดียว
ด้านใต้ตัวเครื่องเป็นส่วนเดียวที่ทำจากพลาสติก ออกแบบมาในลวดลายที่สวยงาม โดยจะสังเกตได้ว่า Acer Predator Helios 300 ได้เจาะช่องสำหรับดูดลมเข้าขนาดใหญ่ 2 ช่องด้วยกัน เมื่อมองลอดไปจะสามารถเห็นพัดลมที่อยู่ในตัวเครื่องได้เลย และบริเวณขอบด้านล่างมีช่องลำโพงอยู่ซ้ายและขวาของตัวเครื่อง โดยลำโพงเป็นแบบ Stereo ที่ให้คุณภาพเสียงที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเสียงเบส impact ต่าง ๆ จัดเต็มสุด ๆ
ถัดมาที่สถาปัตยกรรมภายในตัวเครื่องกันบ้าง ทาง Acer ได้ใช้ชุดระบายความร้อนพิเศษชื่อว่า Predator coolboost ที่ประกอบด้วยเทคโนโลยี 4th Gen AeroBlade™ 3D นั่นคือใช้พัดลมพิเศษที่ใช้การดีไซน์แบบไบโอนิค ประกอบด้วยแผ่นใบพัดโลหะกว่า 59 ใบ ที่บางเฉียบเพียง 0.1 มิลลิเมตร พร้อมร่องเยื้องคู่ป้องกันการสั่นสะเทือน อีกทั้งบริเวณปลายใบพัดถูกออกแบบให้มีรอยหยัก ทำให้อากาศผ่านได้มากยิ่งขึ้นและเงียบสุด ๆ นั้นเอง
โดยชุดระบายความร้อน Predator coolboost ประกอบด้วยพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว ฝั่งซ้ายเป็นโลหะ ที่มีรอบพัดลมสูงสุดกว่า 6,000 รอบเลยทีเดียว และฝั่งขวาเป็นพลาสติก มาพร้อมชุด heat pipe 2 เส้น ฟินระบายความร้อนอีก 4 ตัว วางขนาบข้างพัดลม เรียกได้ว่า Acer Predator Helios 300 ออกแบบระบบระบายความร้อนมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว
ส่วน RAM ให้มาอย่างละ 16 GB 2 แถว รวมแล้วให้ Ram มาทั้งหมด 32 GB เต็มสูงสุด ไม่สามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้แล้ว
ในส่วนของ SSD ให้มาแล้ว 1TB SSD M.2 เป็นของ WD ที่มีความเร็ว Read อยู่ที่ 2963 MB/s และความเร็ว Write อยู่ที่ 3030 MB/s เลยทีเดียว ถือว่ามีความเร็วที่สูงมาก ๆ เลยค่ะ
การอัพเกรด
SSD สามารถอัพเกรดเป็น SSD แบบ PCLe M.2 ได้ 1 ตัว หรือเพิ่ม SSD sata ขนาด 2.5 นิ้วได้ 1 ตัว
ในส่วนของแบตเตอรี่เป็นแบบ Li-ion ที่มีขนาดความจุ 3,000 mA ทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง
มิติตัวเครื่องโดยรวมบางเพียง 2.46 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น ในส่วนของ Adaptor เป็นแบบ 180 W ที่มีน้ำหนักประมาณ 850 กรัม เมื่อรวมกันกับตัวเครื่องแล้ว พบว่ามีน้ำหนักรวมประมาณ 3 กิโลกรัม ก็ถือว่าไม่ได้หนักมากเท่าไหร่ถ้าเทียบกับขนาดของตัวเครื่องค่ะ
โดยรวมแล้ว ถือว่า Acer Predator Helios 300 ทำการออกแบบมาได้อย่างดี สมกับเป็น gaming notebook ระดับ premuim ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้ รวมถึงการออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องทั้งภายใน และภายนอก ทำออกมาได้ตอบโจทย์คอเกมเมอร์จริง ๆ และไม่เพียงจะออกแบบมาให้รองรับการเล่นเกมเท่านั้น ยังรองรับการทำงานทางด้านสีสันอีกด้วย คุ้มค่าสุด ๆ
Performance
ด้วยความที่ Acer Predator Helios 300 เป็น gaming notebook ระดับ premuim สเปคที่ให้มาก็ต้องมาแบบ Premuim ด้วยเช่นกันประเดิมด้วยระบบประมวลผล 10thGeneration ของ Intel โดยใช้เป็น Intel Core i7-10750H 6 cores 12 threads สามารถ overclock ได้ความเร็วสูงสุดถึง 5.0GHz เลยทีเดียว เรียกได้ว่า เร็ว แรงทะลุนรกเลยก็ว่าได้ สามารถนำไปเล่นเกม ทำงาน หรือตัดต่อวีดีโอได้อย่างสบาย ๆ
ในส่วนของ RAM ใช้ชิปของ Samsung ขนาด 32 GB ที่มีความเร็ว Bus speed 2933 MHz
การ์ดจอเป็น NVIDIA Geforce RTX 2070 Max-Q design ที่มีการใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยประมวลผลให้ภาพที่ได้มีความสวยสมจริงและสามารถระมวลผลได้อย่างรวดเร็ว โดยตัวการ์ดจอมีคูดาร์คอร์อยู่ที่ 2300 หน่วย 8 GB GDDR6 ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 1360 Hz แน่นอนว่าด้วยประสิทธิภาพของการ์ดจอขนาดนี้ มันจึงทำให้ Acer Predator Helios 300 สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหนสุด ๆ ไปเลยค่ะ
ในส่วนของการเปรียบเทียบประสิทธิภาพ CPU intel core i7-10750 เทียบกับ intel core i7-10700 บน Desktop พบว่า มีความแรง 66% ของ intel core i7-10700 บน Desktop
สำหรับการทดสอบ CPU จาก CINEBENCH R20 ทำคะแนนได้สูงถึงที่ 2439 PTS อุณหภูมิ CPU พบว่ามีความร้อนพีคโหลดสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 90 องศาเซลเซียส และก็จะ Drop ลงมาอยู่ที่ประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิ Idle ขณะเปิดเครื่องไว้เฉย ๆ อยู่ที่ประมาณ 40-50 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง ความเร็ว CPU ขณะเทสอยู่ที่ 3.4-3.7 MHz เรียกได้ว่าไม่มี Thermo shortern แต่อย่างใด โดยรวมแล้วถือว่าเย็นเลยทีเดียว
สำหรับการทดสอบ 3D Mark Fire Strike สามารถทำคะแนนได้สูงถึง 17,028 คะแนน และมี Graphic Score อยู่ที่ 20,509 คะแนน ซึ่งการ์ดจอมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 63 องศาเซลเซียส ในส่วนของอุณหภูมิ CPU พบว่าสูงสุดอยู่ที่ 87 องศาเซลเซียสเท่านั้น และทำความเร็วในช่วง physics test ได้ที่ 4.2 GHz ถือว่าหากนำไปเล่นเกม ตัว CPU ก็สามารถทำงานได้เต็มที่ และอุณหภูมิไม่สูงเกินไปอีกด้วย
การเล่นเกม PUBG ทดสอบโดยการปรับกราฟฟิคทั้งหมดเป็นระดับ Ultra Full HD พบว่าสามารถทำเฟรมเรตเฉลี่ยขณะเล่นเกมได้ที่ 120-150 FPS ถือสูงมาก กิน RAM ไปประมาณ 10 GB โดยอุณหภูมิตัวเครื่องเฉลี่ยอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส ใช้งาน CPU ไปเพียงแค่ 30-40 % เท่านั้น เหลือ ๆ เลยค่ะ ในส่วนของอุณหภูมิการ์ดจออยู่ที่ 70 องศาเซลเซียส ทำงานเต็มที่เกือบ 100% ไม่พบอาการคอขวดแต่อย่างใด ดังนั้นจึงสามารถนำไปสตรีมเกมได้อย่างสบาย ๆ เลยหละค่ะ
การเล่นเกม BattleField 5 ที่ขึ้นชื่อว่ากินสเปกโหด ทดสอบโดยการปรับกราฟฟิกไปที่ความละเอียดระดับ Ultra เปิด DX12 เปิด NVIDIA DLSS เปิด HDR พบว่าเฟรมเรตวิ่งเฉลี่ยที่ประมาณ 100-120 FPS กิน CPU ไปประมาณ 80% อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 80-90 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิการ์ดจออยู่ที่ 70 องศาเซลเซียส ทำงานเต็มที่เกือบ 100% เช่นกัน สำหรับการนำไปสตรีมเกมก็ยังสามารถทำได้ แต่แนะนำให้สตรีมเพียงช่องเดียว เนื่องจากว่า CPU ทำงานค่อนข้างหนัก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับด่านที่เล่นด้วยเช่นกัน เฟรมเรตที่ได้อาจจะแตกต่างออกไป แต่บอกได้ว่าเหลือ ๆ อย่างแน่นอน
การเล่นเกม Call Of Duty warzone ขึ้นชื่อการกินสเปก RAM เป็นอย่างมาก ทดสอบโดยการปรับกราฟฟิกไปที่ความละเอียดระดับ high สามารถเล่นได้อย่างสบายเช่นกัน เฟรมเรตวิ่งที่ประมาณ 100-130 FPS อุณหภูมิ CPU อยู่ที่ 96 องศาเซลเซียส กิน CPU ไปประมาณ 50-70% อุณหภูมิการ์ดจออยู่ที่ 70 องศาเซลเซียส ทำงานเต็มที่เกือบ 100% เช่นกัน กิน RAM ไปเกือบ 15 GB โหดมากเลยทีเดียว แต่ RAM 32 ที่ให้มาก็ยังถือว่าเหลือ ๆ ถือว่าเล่นได้อย่างสบาย ๆ และการทำงานของ CPU ก็ยังเหลือเพียงพอที่จะนำไปสตรีมเกม Call Of Duty ได้อีกด้วย
สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพแล้วพบว่า Acer Predator Helios 300 สามารถนำไปเล่นเกมได้อย่างสบาย ๆ เรียกได้ว่าสามารถเล่นได้ทุกเกมบนโลกเลยก็ว่าได้ และยังรองรับเกมที่กำลังจะมาได้อนาคตได้อีกด้วย หรือใครจะนำไปใช้งานด้านสีสัน ตกแต่งภาพ ตัดต่อวีดีโอ หรือออกแบบ 3D ก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ถือว่าคุ้มค่าแก่การครอบครองเป็นยิ่งค่ะ
ข้อดี
-
สเปกแรง สามารถนำไปทำงานและเล่นเกมได้
-
ผลิตจากวัสดุคุณภาพแข็งแรง ทนทาน
ข้อสังเกต
-
ผิวตัวเครื่องทำจากโลหะ อาจอมลายนิ้วมือบ้างเล็กน้อย
-
แบตเตอรี่อยู่ได้ไม่นาน
ดูรีวิวเพิ่มเติม : https://www.youtube.com/watch?v=0zstUVagTn8&feature=youtu.be