จากที่รอคอยมาพอสมควรและในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เมื่อ Acer Nitro 5 มีฤกษ์งามยามดีออกสเปคใหม่ ไฉไลกว่าเดิม มาพร้อมสเปคที่มีความเร็ว แรงแบบครบเครื่อง โดยครั้งนี้ได้จับคู่กับระบบประมวลผลตัวเทพของค่าย AMD อย่าง Ryzen 7 4800H ที่บอกเลยว่าแค่เห็นชื่อรุ่น CPU ขนก็ลุกซู่มาทันที เนื่องจากตัวนี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องความแรงเป็นไหน ๆ และยังมาพร้อมกับการ์ดจอ NVIDIA GEFORCE GTX1650TI 4 GB GDDR6 อีกด้วย ส่วนแรมให้มาถึง 16 GB DDR4 ให้ความจุมาที่ 512 GB PCIe/NVMe M.2 SSD มาพร้อมหน้าจอ 15.6″ FULL HD IPS 144Hz แถม WINDOWS 10 HOME รับประกันนานถึง 3 ปี ในราคาเริ่มต้นเพียง 32,900 บาท เป็นยังไงไปดูกันได้เลยค่ะ
Specification
Design
รูปร่างหน้าตาของ Acer Nitro 5 Spec AMD ตัวล่าสุดนี้ไม่ต่างจากเดิมเลยค่ะ เหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ที่เป็น Spec Intel เกือบทุกประการ โดยวัสดุตัวเครื่องยังคงทำจากพลาสติก ABS สีดำแบบ obsidian Black และเล่นลวดลายตัดขอบด้วยสีแดงเล็กน้อยผสมกันอย่างลงตัว
โดยบานฝาพับทำ Texture แบบพลาสติดขัดด้าน และบริเวณขอบซ้าย/ขวาทำลายปัดเสี้ยนหักมุมเล็กน้อยตัดกันอย่างลงตัว ซึ่งข้อดีของการออกแบบผิวสัมผัสลักษณะนี้คือมันช่วยลดการอมรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ค่อนข้างง่ายอีกด้วย และยังช่วยให้ตัวเครื่องดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ส่วนบริเวณตรงกลางมีโกโล้ Acer สีดำเงาแปะไว้อยู่
บริเวณแกนฝาพับยังคงลวดลายเหมือนเดิมคือมีข้อความว่า “NITRO” ซึ่งแสดงถึงเอกลักษณ์ของ Notebook ซีรี่ส์นี้อยู่ตรงแกน
ในส่วนของหน้าจอ Acer Nitro 5 Spec AMD นี้ ยังคงให้หน้าจอเป็น IPS Full HD ขนาด 15.6 นิ้ว ที่ให้ความเร็ว refresh rate มาถึง 144 Hz มาเหมือนเดิม แน่นอนว่าแสดงภาพทำได้อย่างลื่นไหล ภาพสวย คมชัด แต่มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่งคือ Acer Nitro 5 Spec AMD ให้ขอบเขตสีสัน sRGB มาแค่ 66% เท่านั้น ความสว่างอยู่ที่ 250 นิต ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ (Spec Intel) ที่ให้ sRGB มาถึง 100% เลยทีเดียว ดังนั้นหากใครจะเอาไปทำงานด้านสีสัน ตกแต่งภาพ ที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีมาก ๆ อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่นัก แต่หากใครไม่ซีเรียสมากก็สามารถใช้ได้อย่างสบาย ๆ เลยค่ะ ส่วนเรื่องนำไปเล่นเกมนั้น ทำได้อย่างลื่นไหลแน่นอน
ขอบจอเป็นแบบ Narrow bezel มุมมองภาพที่ได้จึงดูมิติที่กว้างมากยิ่งขึ้น และผิดหน้าจอเป็นแบบผิวด้านลดการสะท้อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังคงให้กล้องเว็บแคมและไมโครโฟนมาเหมือนดิม
ถัดมาในส่วนของ Panel keyboard เป็นแบบ full key 104 ปุ่ม ให้ไฟ RGB แบบ 4 Zone สวยงามเลยทีเดียวค่ะ และเราสามารถปรับแต่งแสงไฟ RGB ได้ตามใจต้องการได้ที่ Software Nitrosense ที่มากับตัวเครื่องได้เลย ส่วนการจัดวาง Layout ยังคงเป็นแบบ Keyboard ทั่วไป
โดยแป้นพิมพ์มีการเน้นปุ่มกด 2 โซนด้วยกันคือ “ASWD” และ Arrow key เหมาะสำหรับเกมเมอร์เป็นอย่างมาก และมีปุ่มลัด [N] สำหรับเข้าซอฟแวร์ Software Nitrosense อยู่บริเวณ Numpad ในจุดนี้เราอาจจะต้องมีการเรียนรู้ปุ่มกดใหม่สักเล็กน้อย เนื่องจากปุ่ม [N] อยู่ตำแหน่งเดียวกับปุ่ม Numpad บน Keyboard ทั่วไป ดังนั้นอาจะเผลอผิดได้นั่นเอง
ในส่วนของการเข้า Software Nitrosense สามารถกด key ลัดได้ที่ปุ่ม [N] ที่อยู่บริเวณ numpad ซึ่งเราสามารถเข้าไปปรับแต่งโหมดการใช้งานต่าง ๆ ของตัวเครื่องได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นปรับเปลี่ยนแสงไฟ Keyboard รอบพัดลม หรือ mode ต่าง ๆ ของตัวเครื่องได้อีกด้วย
ถัดมาในส่วนของ Touch pad เป็นแบบซ่อนปุ่มถูกติดตั้งมาอย่างหนาแน่น อยู่เยื้องไปทางซ้ายมือเล็กน้อย เล่นลวดลายตัดขอบสีแดงโดดเด่นสวยงาม สัมผัสการ Touch ก็ทำได้อย่างลื่นไหล
ในส่วนของสติ๊กเกอร์ฝั่งซ้ายมีสติ๊กเกอร์ AMD RYZEN 7, NVIDIA Geforce GTX, Service hour 3 hr. ส่วนฝั่งขวามี สติ๊กเกอร์ Feature ต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง แต่ที่พิเศษคือ Acer Nitro 5 ให้ Killer internet E2600 มาด้วย ซึ่งมันจะช่วยลด latency ในการเล่นเกมลง ช่วยให้เราสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุดนั่นเอง แถมยังสามารถรองรับ wi-fi 6 และ bluetooth 5 ได้อีกด้วย
ส่วนด้านหลังได้เล่นลวดลายด้วยพลาสติก 2 layer สีดำ-แดง ตัดกันอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกเหมือนรถซุปเปอร์คาร์ยังไงอย่างนั้น เพิ่มความเท่ห์ ดุดันสมกับเป็น gaming notebook มากยิ่งขึ้น และบริเวณด้านข้างซ้าย/ขวา เป็นตำแหน่งของช่องระบายความร้อน ที่มีมาให้ถึง 2 ช่องด้วยกัน และตำแหน่งชาร์จแบบเตอรี่อยู่ด้านหลัง ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดการสายชาร์จให้ง่ายมากยิ่งขึ้นและยังช่วยประหยัดพื้นที่ด้านข้างตัวเครื่องอีกด้วย
ถัดมาที่บริเวรณด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่องมีช่องระบายความร้อนมาให้อีก 2 ช่อง เมื่อรวมแล้วตัวเครื่อง Acer Nitro 5 มีช่องระบายความร้อนทั้งหมด 4 ช่องด้วยกัน เรียกได้กว่าเหมือนเดิมกับรุ่นที่แล้วที่เป็น Spec intel เลยหละค่ะ
สำหรับ Port การเชื่อมต่อต่าง ๆ ของ Acer Nitro 5 มีดังต่อไปนี้
-
1 x USB Type-C
-
3 x USB 3.1 Type-A
-
HDMI port
-
Ethernet (RJ-45) port
-
35mm headphone jack
-
Kensington lock slot
ต่อมาที่ด้านใต้ตัวเครื่อง เหมือนกับรุ่นที่แล้วเป๊ะ ๆ คือได้เจาะแผงดูดลมเข้าขนาดใหญ่เอาไว้ ทำลวดลายแบบ Abstract โดยเมื่อมองลอดผ่านตะแกรงจะสามารถเห็นพัดลมในตัวเครื่องได้อีกด้วย
และบริเวณมุมขวาบน มีสติ๊กเกอร์คำเตือน CAUTION พื้นผิวร้อนแปะไว้ หากเล่น ๆ อยู่ก็ระวังอย่าเผลอเอามือไปสัมผัสบริเวณส่วนนี้เข้าหละ เพราะอุณหภูมิจะสูงกว่าตำแหน่งอื่นนั่นเอง และที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากว่าด้านใต้ตรงส่วนนี้เป็นตำแหน่งของ Fin ระบายความร้อน เมื่อมีการระบายความร้อนเกิดขึ้นมันจึงทำให้อุณหภูมิบริเวณนี้ค่อนข้างสูงกว่าตำแหน่งอื่น ๆ เล็กน้อยนั่นเอง
ถัดมาบริเวณขอบซ้าย / ขวา เป็นตำแหน่งของลำโพง ซึ่งระบบเสียงที่ใช้เป็น Sonic master คุณภาพเสียงที่ได้ดีพอประมาณ
ถัดมาในส่วนของสถาปัตยกรรมภายในตัวเครื่องกันบ้าง บอกเลยว่าแทบจะเหมือนเดิมเกือบ 100% โดยระบบ coolboost ที่ใช้มี Heat pipe 3 เส้น ทำหน้าที่ส่งผ่านความร้อนจาก CPU ออกไปยัง Fin ระบายความร้อนที่อยู่รอบพัดลม โดย Fin ระบายความร้อนให้มาถึง 4 ตัว และพัดลมอีก 2 ตัว ซ้าย-ขวา ที่มีรอบสูงสุดอยู่ที่ 5,500 รอบ ส่วนประสิทธิภาพการระบายความร้อนจะเป็นยังไงดูที่ได้ที่ผลเทสเลยค่ะ
ในส่วนของ RAM ให้มาเป็น 8 GB 2 แถว รวมเป็น 16 GB ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าเทียบกับ Gaming notebook รุ่นอื่น ๆ ในท้องตลาดแล้ว แทบจะไม่ค่อยเห็นเจ้าไหนให้ RAM มาเยอะขนาดนี้ ถือว่า ACER ให้มาครบจัดเต็มเลยทีเดียว และที่สำคัญให้มาแบบ Dual channel อีกด้วย ซึ่งเหมาะกับการทำงานของ CPU ค่าย AMD เป็นอย่างยิ่ง เพราะตัว CPU ของ AMD จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อทำงานคู่กับ RAM แบบ Dual channel นั่นเอง
ส่วนของ SSD ให้มาแล้ว 512 GB PCIe/NVMe M.2 SSD ซึ่งมี slot ว่างสำหรับใส่ SSD แบบ PCIe หรือ SATA ได้อีก 1 ช่อง แถมมีช่องสำหรับใส่ SSD ขนาด 2.5 นิ้วได้อีก 1 ช่อง ถือว่าจัดเต็มจริง ๆ
การอัพเกรด
-
RAM มีช่องให้ไส่ 2 Slots โดยแต่เดิมให้มาเป็น 8 GB 2 แถว รวมเป็น 16 GB สามารถอัพเกรดได้สูงสุดถึง 32 GB
-
SSD มีช่องสำหรับ SSD PCIe/SATA มา 2 slots และให้ช่องสำหรับใส่ SSD ขนาด 2.5 นิ้ว/ Hardish มาอีก 1 Slot แต่เดิมให้มา แล้ว 512 GB PCIe/NVMe M.2 SSD นั่นคือสามารถอัพเกรด SSD PCIe/SATA ได้ 1 slot และ SSD ขนาด 2.5 นิ้ว/ Hardish ได้อีก 1 Slot
ในส่วนของแบตเตอรี่เป็นแบบ Li-Polymer 2 เซลล์ ความจุอยู่ที่ 3720 mAh ขนาด 57.28 Wh สามารถใช้งานได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่หากว่าเราใช้งานใน Mode battery saving ลดแสงหน้าจอลง 50% ปิดแสงไฟ Keyboard จะทำให้ตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 5 ชั่วโมงเลยทีเดียวค่ะ และถ้าหากใครจะนำไปใช้งานหนัก ๆ ก็อย่าลืมพก adaptor ไปด้วยเสมอนะคะ
Adaptor ที่ให้มามีขนาด 135 W น้ำหนักอยู่ที่ ประมาณ 350 กรัม ถือว่าเบามากทีเดียวค่ะ
โดยตัวเครื่องมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.3 kg เท่านั้น และเมื่อรวมกับ adaptor แล้วมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.7 kg ถือว่า ไม่ได้หนักมากเมื่อเทียบกับ Gaming notebook รุ่นอื่น ๆ ถือว่าพกพาได้สบาย ๆ ซึ่งการออกแบบของ Acer Nitro 5 Spec AMD เรียกได้ว่าเหมือนกับ Acer Nitro 5 Spec Intel เลยก็ว่าได้ มีเพียง Spec ภายในและ Spec ของหน้าจอที่มีการลดระบบขอบเขตสีสัน sRGB ลงมาเหลือ 66% แต่ก็แลกมากับความแรงของ CPU ที่มากขึ้นกว่าเดิม ถูกใจคอเกมเมอร์อย่างแน่นอน
Performance
Acer Nitro 5 AN515-44-R2A6 มาพร้อมระบบปฏิบัติการที่แรงที่สุดของปีนี้ ด้วย CPU AMD RYZEN 7 4800H เทคโนโลยี 7 nm แบบ 8 Cores 16 Threads ที่มีความเร็ว Base clock 2.9 GHz Boost clock 4.2 GHz พร้อมมีชิป Graphic on CPU อีกด้วย อีกทั้งยังให้ RAM มา 8 GB 2 แถว เป็นของ Micron
โดยความแรงของ SSD ที่ให้มา มีความเร็ว Read ที่ 2487 MB/s ความเร็ว Write อยู่ที่ 1800 MB/s
และเมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ CPU AMD RYZEN 7 4800H เทียบกับ CPU Intel Corei7-10700U บน Desktop พบว่ามีความแรงน้อยกว่าประมาณ 6 % เท่านั้น แรงสุด ๆ เกือบจะเทียบเท่ากันเลยทีเดียว และเมื่อเทียบกับ CPU Intel Corei7-10500H พบว่า AMD RYZEN 7 4800H แรงกว่าถึง 28% เลยทีเดียว ถือว่าสุดยอดมากค่ะ กับความเร็ว CPU เรียกได้ว่าซื้อไปแล้วไม่เสียดายเงินอย่างแน่นอน
สำหรับการทดสอบการ์ดจอด้วย Program GPU-Z ให้มาเป็น NVIDIA GEFORCE GTX1650 Ti 4 GB GDDR6 ให้ RAM มา 4 GB เป็น RAM แบบ GDDR6 ที่มีคูด้าคอร์ถึง 1024 หน่วย และยังมีการ์ดจอ AMD RADEON ที่ติดมากับ CPU อีกด้วย
สำหรับการทดสอบ CPU จาก CINEBENCH R20 ทำคะแนนได้สูงถึงที่ 3998 PTS โดย CPU มีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 66 องศาเซลเซียสเท่านั้น ความเร็ว CPU ขนาดการทดสอบอยู่ที่ 3.5-3.6 GHz ส่วนอุณหภูมิ Idle ขณะเปิดเครื่องไว้เฉย ๆ อยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส จะเห็นได้ว่าเครื่องเย็นและแรงมาก ถือว่าเรื่องประสิทธิภาพการระบายความร้อนทำออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว
สำหรับการทดสอบ 3D Mark Fire Strike สามารถทำคะแนนได้ 8,738 คะแนน และมี Graphics Score อยู่ที่ 9,335 คะแนน ซึ่งการ์ดจอมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 60 องศาเซลเซียส ในส่วนของอุณหภูมิ CPU มีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 72 องศาเซลเซียสเท่านั้น และทำความเร็วในช่วง physics test ได้ที่สูงถึง 4.2 GHz เลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าไม่เพียงแต่จะรีดประสิทธิภาพของ CPU ทำความเร็วสูงสุดได้แล้ว ยังสามารถทำให้ตัวเครื่องมีอุณหภูมิต่ำได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเครื่องเย็นและแรงสุด ๆ ไปเลย ต้องขอชื่นชนทาง Acer ที่ออกแบบตัวเครื่องได้ดีมาก ๆ เมื่อเทียบคุณภาพที่ได้กับราคาแล้วถือว่าเกินคุ้มเลยค่ะ
การเล่นเกม PUBG ทดสอบโดยการปรับกราฟฟิคทั้งหมดเป็นระดับ Low ผสม Ultra Full HD พบว่าสามารถทำเฟรมเรตเฉลี่ยขณะเล่นเกมได้ที่ 100-120 FPS ใช้งาน CPU ไปเพียงแค่ 20 % เท่านั้น ถือว่าน้อยมาก ทำให้เราสามารถนำพื้นที่ CPU ที่เหลือนี้ไปสตรีมเกม เปิด Youtube หรือเปิดโปรแกรมอัดหน้าจอเกมได้อีกด้วย ในส่วนของอุณหภูมิการ์ดจออยู่ที่ 62 องศาเซลเซียส ทำงานเต็มที่เกือบ 100% ไม่พบอาการคอขวดแต่อย่างใด กิน RAM ไปเพียง 6 GB เมื่อเทียบกับสเปกที่ให้มาเรียกว่าเหลือ ๆ เลยค่ะ ดังนั้นจึงสามารถนำไปสตรีมเกมและต่อจอแยกได้อย่างสบาย ๆ
การเล่นเกม BattleField 5 ที่ขึ้นชื่อว่ากินสเปคโหด ทดสอบโดยการปรับกราฟฟิกไปที่ความละเอียดระดับ Low เปิด DX12 ปิด V sync พบว่าเฟรมเรตวิ่งเฉลี่ยที่ประมาณ 80-100 FPS กิน CPU ไปประมาณ 60% ส่วนอุณหภูมิการ์ดจออยู่ที่ 60 องศาเซลเซียส ทำงานเต็มที่เกือบ 100% เช่นกัน ส่วน RAM กินไป 10 GB ซึ่งยังถือว่า RAM เหลือ ๆ สามารถนำไปสตรีมเกมได้อย่างสบาย ๆ เลยค่ะ
การเล่นเกม Call Of Duty warzone ขึ้นชื่อการกินสเปค RAM เป็นอย่างมาก ทดสอบโดยการปรับกราฟฟิกเป็นแบบ Free set สามารถเล่นได้อย่างสบายเช่นกัน เฟรมเรตวิ่งที่ประมาณ 60-90 FPS กิน CPU ไปประมาณ 40% เท่านั้น อุณหภูมิ CPU อยู่ที่ประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิการ์ดจออยู่ที่ 60 องศาเซลเซียส ทำงานเต็มที่เกือบ 100% เช่นกัน กิน RAM ไปเกือบ 12 GB โหดมากเลยทีเดียว ซึ่ง RAM ที่ให้มาก็ยังสามารถเล่นได้ลื่นไหล ส่วนใครจะทำไปสตรีมก็ยังสามารถทำได้อย่างสบาย ๆ CPU เหลือ ๆ ค่ะ
โดยรวมแล้วถือว่า Acer Nitro 5 AN515-44-R2A6 ทำผลเทสได้ดีเกินคาดค่ะ สามารถรีดความแรงของ CPU ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งเรื่องของการระบายความร้อนก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม ขนาดตัวเครื่องใช้งานเต็มที่ความเร็ว CPU วิ่งสูงสุดไปที่ 4.2 GB อุณหภูมิตัวเครื่องที่ได้ยังถือว่าต่ำมาก ขอชื่นชม Acer ในจุดนี้ ซึ่งด้วยสเปคที่ให้มาสามารถนำไปเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล เรียกได้ว่าสามารถเล่นได้ทุกเกมบนโลกในขณะนี้เลยก็ว่าได้ อีกทั้งในแง้ของการนำไปทำงานด้าน เอกสาร ออกแบบ งาน 3D เขียน program ก็สามรถทำได้อย่างลื่นไหล หรือนำไป Rendor งานตัดต่อวีดีโอก็สามารถทำได้อย่างสบาย ๆ เลยหละ เรียกได้ว่าใช้งานได้ครอบคลุมไม่ว่าจะนำไปเล่นเกมหรือทำงาน แถมทำออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย คุ้มค่าสุด ๆ ในราคาค่าตัวเพียงแค่ 32,900 บาท เท่านั้น ถือว่า Acer Nitro 5 Spec AMD นี้เป็น Gaming notebook ที่คุ้มค่าและอยากแนะนำตัวหนึ่งเลยค่ะ
ข้อดี
-
สเปกแรง
-
เครื่องเย็น
-
อัพเกรดได้
-
ราคาย่อมเยาว์
ข้อสังเกต
-
ให้ขอบเขตสี sRGB มา 66%
สามารถดู รีวิวได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=It5xnxFjjNQ&t=61s