“กรมสรรพากร” ออกมาดำเนินการจัดเก็บภาษี e–Service หรือภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับบริการอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วในวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางด้าน “รัชดา ธนาดิเรก” ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองโฆษกรัฐบาล ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการว่า สามารถจัดเก็บภาษี e–Service ได้จำนวนมากถึง 686 ล้านบาท ซึ่งยอดภาษีประเภทดังกล่าวทะลุเป้าเดิมกว่า 65% เลยทีเดียว
สำหรับภาษี e–Service ของเดือนตุลาคม ปี 2021 ประกอบไปด้วยบริการหลากหลายประเภท มาจากแพลตฟอร์มต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งผ่านการจดทะเบียนแล้ว ทั้งหมด 106 รายด้วยกัน ยอดค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์รวม 9,800 ล้านบาท โดย “แพลตฟอร์มบริการโฆษณาออนไลน์” ชำระภาษีมากสุดถึง 424 ล้านบาท
เหมือนว่าการจัดเก็บภาษี e–Service ของทางกรมสรรพากรจะทะลุเป้ากระหน่ำ โดยรองโฆษกรัฐบาล “รัชดา ธนาดิเรก” ออกมายืนยันด้วยตัวเอง ว่าเกินไปจากเป้าที่เคยคาดการณ์เอาไว้ถึง 65% จึงถือว่ายอดจัดเก็บภาษี e–Service สูงมาก ๆ เมื่อเทียบเคียงกับเป้าเดิม ซึ่งบรรดาเหล่าแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ e-Service โดนรัฐบาลจัดเก็บภาษี แบบหนักหน่วงกันเป็นแถว
ท่ามกลางข้อสงสัยจากประชาชนภายในประเทศ ซึ่งหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่าทางรัฐบาลจะนำเงินภาษีก้อนดังกล่าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้างในอนาคต เพราะเหมือนว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลไทยจะเน้นการจัดเก็บภาษีเป็นหลัก สวนทางกับแผนสนับสนุนการพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ ของเมืองไทย ซึ่งรัฐบาลยุคปัจจุบันไม่ค่อยให้ความสำคัญอย่างเท่าที่ควรจะเป็น
ที่มา thaipbs, รัชดา ธนาดิเรก