ในทุกวันนี้หากใครที่จะประกอบคอมคงต้องกุมขมับ เนื่องจากราคาการ์ดจอที่แพงมหาโหด ทำให้ต้นทุนการประกอบคอมสูงเป็นเท่าตัวจากราคาปกติ ถ้าจะหาต้นตอสาเหตุของราคาการ์ดจอที่สูงขึ้นนั้น ต้องบอกว่ามีหลายปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้
1. การผลิต
โรงงานผลิตชิปหลายแห่งได้ปิดสายการผลิตลง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 รวมถึงปัญหาวัตถุดิบที่ขาดแคลนอย่างซิลิกอน และเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการผลิตการ์ดจอ ก็ได้ถูกแบ่งสันปันส่วน นำส่งผลิตไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น รถยนต์ สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค ที่ได้รับความนิยมในช่วงการล็อคดาวน์มากเช่นเดียวกัน ทำให้ Nvidia และ AMD 2 ค่ายยักษ์ใหญ่แห่งวงการ GPU เลยส่งการ์ดจอออกมาได้น้อยกว่าในช่วงเวลาปกตินั่นเอง
2. คมนาคมขนส่ง
สถานการณ์นำเข้า-ส่งออกสินค้าในช่วงวิกฤตโควิด-19 มีขั้นตอนการขนส่งที่ยุ่งยากขึ้น รวมถึงตู้คอนเทนเนอร์ ยังกระจัดกระจายไปตามที่ต่าง ๆ ทำให้เกิดเหตุการณ์ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ค่าขนส่งจึงมีต้นทุนที่สูง และส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย จึงจำเป็นต้องเพิ่มราคา เพื่อความอยู่รอดของบริษัท
3. การขุดเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี
อาจจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะกระแสการขุดคริปโตกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่เหรียญ bitcoin ได้มีราคาพุ่งสูงถึง 2 ล้านบาท ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้นักขุดทั้งหลาย แห่ไปซื้อการ์ดจอ เพื่อมาขุดคริปโตสร้างรายได้ หรืออาจจะซื้อเพื่อมาเก็งกำไร แล้วขายในภายหลัง ทำให้ตอนนี้ เกิดสภาวะขาดแคลนการ์ดจออย่างกว้างขวางไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้บริโภคมีความต้องการซื้อมากขึ้น แต่ปริมาณการผลิตสินค้าลดลง จึงส่งผลกระทบต่อราคาของการ์ดจอที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน
ช่วงประมาณกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาทาง 3D Center ได้เปิดตัวรายงานตลาดการ์ดจอล่าสุด โดยอิงตามราคาของผู้ค้าปลีกในเยอรมันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในรายงาน ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม ราคา GPU ลดลงอย่างมาก ความกระตือรือร้นและความหวังในเหล่าผู้เล่นเกมที่พยายามหากราฟิกการ์ดราคาสมเหตุสมผลเริ่มมีมากขึ้น แต่พอหลังผ่านไปหนึ่งเดือนจากราคาที่ซบเซากลับทิศปรับตัวเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ทำลายความคาดหวังของผู้บริโภคในการซื้อการ์ดจอไปทันที บางคนอาจจะสงสัยว่า ราคาการ์ดจอในฝั่งยุโรป และฝั่งสหรัฐฯ กำลังกลับสู่สภาวะปกติ แล้วทำไมมันยังถึงแพงอยู่ในประเทศไทย ตรงนี้มันจะขึ้นอยู่กับกลไกทางการตลาด และการควบคุมราคาของในประเทศนั้น ๆ ด้วย
ทาง NVIDIA ก็มีความพยายามในการแก้เกมอยู่หลายวิธีพอสมควร ยกตัวอย่างการเปิดตัวชิปตระกูล CMP (Cryptocurrency Mining Processor) ที่ออกแบบมาสำหรับการขุดเหมืองคริปโตฯ โดยเฉพาะ แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ เพราะว่าการ์ดจอพวกนี้ สามารถขุดคริปโตฯ ได้อย่างเดียว ถ้าเหมืองแตก ก็มีความเสี่ยงสูงต่อการขาดทุน กลุ่มนักลงทุนเลยไม่ค่อยอยากจะลงทุนกับการ์ดกลุ่มนี้กัน
แล้วเมื่อไหร่ที่ราคาจะกลับมาเป็นปกติ ? หากสถานการณ์วิกฤติโควิด – 19 เริ่มคลี่คลาย ราคาการ์ดจอก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นปกติ เพราะว่าคนงาน สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ กำลังการผลิตรวมถึงวัตถุดิบต่าง ๆ เองก็สามารถเข้าสู่ระบบการผลิตได้เหมือนเดิม ราคา bitcoin ก็สำคัญ ถ้าเกิดว่าราคา bitcoin หรือ Cryptocurrency ดิ่งเหวตลาดแตกขึ้นมาเมื่อไหร่ เราจะได้เห็นเหมืองแตก เมื่อนั้นการ์ดจอมือสองก็จะเริ่มทะลักออกมาสู่ตลาด ส่งผลให้การ์ดจอมีราคาที่ถูกลงนั่นเอง ซึ่งนาย “Jensen” Huang CEO ของทาง NVIDIA ก็มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในวันประชุมของนักลงทุนช่วงเดือนเมษายนของปีนี้ว่า สถานการณ์การ์ดจอขาดตลาด จะไม่ได้จบภายในปี 2021 แต่จะลากยาวไปถึงปี 2022 นั่นหมายความว่าเหล่านัก Gamer ตอนนี้คงต้องกัดฟันรอกันไปอีกยาว ยิ่งมีกระแสข่าวออกมาว่า NVIDIA จะไปจ้าง TSMC ผลิตชิปการ์ดจอรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นโรงงานเดียวกันกับที่ผลิตการ์ดจอของฝั่ง AMD เผลอ ๆ อาจจะมีการแย่ง supply chain กันหนักกว่าเดิม
ในขณะที่เราต้องการเห็นการ์ดจออยู่ในมือของนักเล่นเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ตอนนี้หลาย ๆ ร้าน จึงมักจะขายการ์ดจอให้เฉพาะนักเล่นเกมหรือคนที่ประกอบคอมเท่านั้น เพราะว่าถ้าขายการ์ดจอแยก มันก็จะไม่มีคอร์สำหรับเครื่องประกอบนั่นเอง ทำให้เขายังต้องกันการ์ดจอไว้เพื่อประกอบเฉพาะ และเพื่อป้องกันมิให้มีการนำไปใช้โดยไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ผลิต นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าร้านขายการ์ดจอแยกไม่ได้ แต่ด้วยความที่ราคาการ์ดจอสูงในช่วงนี้ การลงทุนซื้อการ์ดจอตัวใหม่มาประกอบคอมจึงไม่คุ้ม!
ดังนั้น ใครที่ไม่มีความจำเป็นต้องจัดสเปคคอม แนะนำให้เก็บเงินรอกันไปยาว ๆ จะดีที่สุด หรือไปหาซื้อโน้ตบุ๊คมาใช้ก่อนก็ได้ และถึงแม้ว่า ณ ตอนนี้ ราคาการ์ดจอมือสอง จะแพงกว่ามือ 1 ก็จริง แต่ก็อาจจะมีบางคนที่ขายในราคาที่เป็นธรรมหรือไม่ได้บวกมากก็ได้ อาจจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการซื้อแก้ขัดไปก่อน
และทิ้งท้ายกันไว้ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าสถานการณ์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครคาดเดาราคาของเหรียญ Cryptocurrency ได้ และก็ไม่มีใครคาดการณ์ว่าสภาวะสถานการณ์ของโควิด-19 มันจะจบเมื่อไหร่ ใครก็ตามที่ยังมีการ์ดจอ กอดการ์ดจอไว้ให้แน่น ๆ และภาวนาว่ามันจะไม่เสียในเวลานี้นะครับ