ในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อน หากใครพูดว่าต่อไปภายในโลกของเราจะเต็มไปด้วยรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า คงจะเป็นเรื่องน่าขำขันสำหรับใครหลายคนในตอนนั้น แต่เมื่อยุคสมัยเกิดความเปลี่ยนแปลง โลกของเราหมุนไปอย่างรวดเร็ว ก็พบว่ารถยนต์ไฟฟ้าสามารถเกิดขึ้นได้จริง เพื่อขจัดปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องพบเจอมายาวนาน
โดยเฉพาะวิกฤติขาดแคลนพลังงานน้ำมัน จนเราต้องเห็นประชาชนในบางประเทศต่อคิวยาวเหยียดเข้าปั๊มน้ำมันกันมาบ้างแล้ว นั่นจึงเป็นเหตุให้คนจำนวนไม่น้อยเริ่มหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลของบรรดาเหล่าประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลาย ต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ๆ พยายามสนับสนุนสิ่งนี้เต็มที่ เนื่องจากหวังให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้งานสิ่งที่ดีกว่า แถมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอีกด้วย เราจึงอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และมาดูกันว่าแนวโน้มของรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นอย่างไรต่อไปบ้าง
“รถยนต์ไฟฟ้า” สุดยอดนวัตกรรมยานพาหนะแห่งยุค
“รถยนต์ไฟฟ้า” หรือเรียกอีกอย่างว่า “รถ EV” คือหนึ่งในนวัตกรรมยานพาหนะแห่งยุค ซึ่งกำลังมีความนิยมค่อนข้างสูงในขณะนี้ จุดเด่นคือการอาศัยพลังงานไฟฟ้าสำหรับการขับเคลื่อน โดยมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประสิทธิภาพเยี่ยม ไว้กักเก็บพลังงานไฟฟ้า และแปลงพลังงานไฟฟ้ามาใช้ขับเคลื่อนตัวรถ แถมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ายังสอดคล้องกับนโยบายด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย เพราะการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจะไม่เกิดการเผาไหม้ อันก่อให้เกิดการผลิตมลพิษออกมาสู่สาธารณะ ที่มีความอันตรายต่อร่างกาย
ที่สำคัญคือ ผู้คนในยุคปัจจุบันเริ่มมีความตระหนักต่อการใช้พลังงานมากขึ้น หากมีตัวเลือกดี ๆ อย่างพลังงานไฟฟ้ามาทดแทน หลายคนก็พร้อมที่จะหันหลังให้ “น้ำมัน” และ “แก๊ส” เสมอ เพียงแต่สถานีชาร์จไฟฟ้าควรจะมีจำนวนเพียงพอต่อความต้องการด้วย อย่างไรก็ตามตอนนี้เราเริ่มเห็นรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาแทนที่เยอะขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว อีกทั้งค่ายรถยนต์หลากหลายแห่งยังมีการจัดโปรโมชั่นเด็ด ๆ มาล่อตาล่อใจด้วย จึงยิ่งทำให้ยอดขายกระฉูดกว่าเดิมไปอีก
ทิศทางรถยนต์ไฟฟ้าภายใน “ประเทศไทย”
ต้องยอมรับเลยว่า ในตอนนี้กระแสของรถยนต์ไฟฟ้านั้น กำลังมาแรงไปทั่วโลกจริง ๆ แม้กระทั่งภายในประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยเมื่อคนไทยเริ่มหันมาให้ความสนใจตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ย่อมเป็นเรื่องปกติที่ค่ายผลิตรถยนต์ระดับชั้นนำแห่งต่าง ๆ จะสัมผัสได้ถึงสัญญาณเหล่านี้ จึงเกิดการจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในจำนวนที่มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งทุกคนคงน่าจะทราบดีแล้วว่าค่ายผลิตรถยนต์หลายแห่งมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศไทย พวกเขาจึงตัดสินใจลงทุนกับสิ่งดังกล่าว เพื่อหวังให้เกิดผลตอบรับอันท่วมท้นที่กำลังจะตามมาในอนาคตข้างหน้า
ตลอดปี 2022 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามีอัตราเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดทางด้าน “ttb analytics” ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจมาก ๆ อีกครั้ง โดยมีการประเมินยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งไฟฟ้า (Electric Vehicles : xEV) ของเมืองไทย ภายในปีดังกล่าวออกมาเรียบร้อยแล้ว ด้วยการประเมินว่ายอดจำหน่ายจะถึงหลัก 6.36 หมื่นคันเลยทีเดียว พุ่งขึ้นเป็นจำนวนกว่า 48% ด้วยกัน ซึ่งในข้อมูลที่กล่าวมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) อยู่ราว 1 หมื่นคัน ที่อัตราการขยายตัว 539.7% ซึ่งคือการเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน จึงถือว่าอัตราการขยายตัวสูงมากอย่างมีนัยยะสำคัญ เป็นอีกตัวที่สามารถบ่งชี้ทิศทางของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศไทย
เครดิตรูปภาพ: ttbbank
ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) , รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid) หรือรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) ล้วนแล้วแต่มีความนิยมเติบโตทั้งนั้นเลย เนื่องจากประชาชนชาวไทยต่างมีความตื่นตัวกับเรื่องนี้ จึงอยากลองเปลี่ยนมาใช้งานนวัตกรรมใหม่ที่ทันสมัยกว่าเดิม อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศไทยจึงกำลังเดินไปสู่ทิศทางที่ดี แต่การสนับสนุนจากทางรัฐบาลก็คือสิ่งที่จำเป็นเช่นเดียวกัน หากทางรัฐบาลไทยพยายามสนับสนุนเต็มที่ เชื่อเหลือเกินว่าคนไทยจะต้องซื้อรถยนต์ไฟฟ้ากันอีกเพียบแน่ ๆ แต่สถานีชาร์จไฟฟ้าควรจะกระจายไปทั่วประเทศเสียก่อน มิเช่นนั้นจะเกิดอุปสรรคในการใช้งาน กระทั่งคนไม่กล้าตัดสินใจซื้อในที่สุด
แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าใน “อนาคต”
ในช่วงตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา โลกของเราต้องพบเจอกับวิกฤติอันแสนหนักหน่วงหลากหลายระลอกด้วยกัน เกิดความวุ่นวายโกลาหลทั้งในแง่เศรษฐกิจ และความมั่นคง จากภัยสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน เป็นเหตุให้น้ำมันทั่วโลกปรับราคาเพิ่มอย่างน่าตกใจ อีกทั้งบางประเทศยังพบเจอกับวิกฤติขาดแคลนน้ำมันด้วย จึงเป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ จะให้การสนับสนุนการใช้พลังงานอื่น ๆ ทดแทน โดยเฉพาะการใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งนำร่องไปด้วยประเทศชั้นนำหลาย ๆ แห่ง ที่ทางรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเอาจริงเอาจัง จนเราได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าแล่นอยู่ตามท้องถนนเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว
แต่หากมองไปที่ประเทศไกล ๆ แล้ว ยังเห็นภาพไม่ค่อยชัดเจน ลองดูไปที่ประเทศใกล้เคียง อย่าง “สิงคโปร์” จะดีกว่า ซึ่งคือประเทศที่รัฐบาลมีประสิทธิภาพสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของโลก พวกเขาได้มีการวางแผนในสิ่งดังกล่าวเอาไว้หมดแล้ว แม้ตอนนี้อัตราการใช้รถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศสิงคโปร์ จะยังมีจำนวนค่อนข้างน้อยอยู่ก็ตาม แต่เมื่อลองส่องนโยบายจริง ๆ ก็จะเห็นถึงความชัดเจน โดยรัฐบาลต้องการเปลี่ยนจากการใช้รถยนต์แบบเครื่องยนต์ มาสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั้งประเทศให้สำเร็จก่อนปี 2040 ซึ่งแน่นอนว่าทางรัฐบาลได้ดำเนินการต่อเนื่อง และพยายามวางโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเปลี่ยนแปลง แถมเสนอนโยบายจูงใจทางด้านภาษีด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกอยากซื้อรถมาครอบครองเป็นเจ้าของสักคันนึง
จากที่กล่าวมาจึงต้องยอมรับเลยว่ายุทธศาสตร์ของประเทศสิงคโปร์น่าเอาเป็นแบบอย่างจริง ๆ เพราะพวกเขามีการวางแผนสำหรับอนาคตไว้หมดแล้ว อีกสิบกว่าปีข้างหน้าอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศดังกล่าวจึงจะต้องเปลี่ยนโฉมไปอย่างแน่นอน แต่นอกเหนือจากประเทศสิงคโปร์แล้ว ทราบมาว่าประเทศอื่น ๆ ก็พยายามวางแผนรองรับสำหรับอนาคตด้วยเหมือนกัน แต่ประเทศใดจะทำสำเร็จก่อนกันนั้น คงต้องมาจับตารอดูความเคลื่อนไหวกันต่อไป
ขณะเดียวกันเทคโนโลยีต่าง ๆ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าก็น่าจะพัฒนาควบคู่กันไปด้วย ดังนั้นหากเกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ก็จะสอดรับกันอย่างพอดิบพอดีเลยทีเดียว ภายในระยะเวลาไม่นานหลังจากนี้รถยนต์ไฟฟ้าจะเริ่มเข้ามาแทนที่รถยนต์แบบเครื่องยนต์กระทั่งเต็มท้องถนนในที่สุด