“Apple Pay” คือหนึ่งในบริการที่ทางค่าย Apple มีความพยายามผลักดันมาโดยตลอด เพราะสิ่งดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว โดยเป็นแอปพลิเคชันด้านการเงินที่จะอยู่บนอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเรา ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, iMac หรือแม้กระทั่ง Apple Watch ก็ตาม ทำให้เราไม่จำเป็นต้องพกพาบัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เนื่องจาก Apple Pay จะรวบรวมทุกบัตรเอาไว้ด้วยกัน ดังนั้นจึงสามารถซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดาย ด้วยการพึ่งพาแอปพลิเคชันที่กล่าวมา
แน่นอนว่า Apple Pay จะทำงานร่วมกับอุปกรณ์ของทางค่าย Apple เท่านั้น โดยสามารถซื้อสินค้าได้แบบสะดวกปลอดภัยผ่านทาง App Store และรวมถึงเว็บไซต์ของ Apple หากมียอดเงินเข้ามาเมื่อไหร่ ก็จะถูกเพิ่มลงไปสู่ Apple Pay Cash ภายในเวลาต่อมา ซึ่งสามารถใช้งานได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Wallet นั่นเอง แถมเรายังใช้ยอดเงินเหล่านี้ได้ทันทีอีกด้วย แต่หากใครต้องการโยกย้ายเงินจากบัญชี Apple Pay Cash ก็สามารถทำได้เช่นกัน ด้วยการโอนไปยังบัญชีธนาคารที่เคยผูกเอาไว้
โดยในส่วนของความปลอดภัยในการใช้งาน ทางค่าย Apple ถือว่ามีความขึ้นชื่อมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ที่สำคัญการซื้อสินค้าในแต่ละครั้งก็ต้องผ่านการยืนยันตัวตนให้เรียบร้อยก่อน จึงวางใจในเรื่องความปลอดภัยได้ระดับหนึ่งเลย แต่นอกเหนือจากทั้งหมดในข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลาย ๆ สิ่ง ที่ควรรู้เกี่ยวกับ Apple Pay จึงอยากจะชวนมาทำความรู้จักไปด้วยกัน เพื่อเตรียมความพร้อมในการย่างก้าวสู่อนาคตข้างหน้า
“Apple Pay” มาพร้อมกับ “จุดเด่น” และ “จุดด้อย”
หากใครเป็นคนใช้ iPhone มาโดยตลอด ย่อมต้องทราบดีว่าบริการ Apple Pay มีความสะดวกสบายเพียงไหน เนื่องจากเป็นบริการธุรกรรมที่ง่ายดาย และมีความรวดเร็วมาก ๆ จึงกลายมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคนที่ขี้เกียจพกพากระเป๋าสตางค์ อีกทั้งยังต้องการลดจำนวนบัตรเครดิตที่พกติดตัวเอาไว้ด้วย โดยในปัจจุบัน Apple Pay ได้รับความนิยมไปทั่วโลก จนตอนนี้สาวกของค่าย Apple หลาย ๆ คน ไม่สามารถขาดบริการนี้เลยด้วยซ้ำ
แถมในยุคนี้การใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์ Apple Watch ยังเป็นสิ่งที่สะดวกมาก ๆ เพียงแค่สวมใส่ผลิตภัณฑ์ Apple Watch หนึ่งชิ้น ก็สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามใจตัวเองแล้ว โดยถึงแม้ Apple Pay จะมีจุดเด่นอยู่เยอะ แต่ดูเหมือนจะมีจุดด้อยให้เห็นบ้างเหมือนกัน ซึ่งมันอาจจะทำให้บริการดังกล่าวไม่ตอบโจทย์สำหรับคนบางส่วน เราจึงนำจุดเด่น – จุดด้อย มาฝากกัน เพื่อเป็นอีกตัวช่วยในการตัดสินใจ
จุดเด่นของ Apple Pay
- ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเหมือนเมื่อก่อน จึงทำให้เกิดความสะดวกยิ่งกว่าที่เคยพบเจอ
- สามารถจ่ายเงินผ่านทางระบบออนไลน์ ลดปัญหาความยุ่งยากที่เคยสัมผัสมาในอดีต
- ซื้อสิ่งต่าง ๆ ง่ายดายกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชัน ภาพยนตร์ เพลง หนังสือ รวมถึงบริการอื่น ๆ อีกมากมาย
- สามารถพ่วงกับบัตรเดบิต และบัตรเครดิต ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วางใจในเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคล เพราะทางค่าย Apple มีการรักษาข้อมูลของลูกค้าได้อย่างปลอดภัย
- มีบริการใหม่ ๆ ถูกเพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์สำหรับลูกค้าทั้งหลายยิ่งขึ้น
จุดด้อยของ Apple Pay
- ร้านค้าในโลกออนไลน์ มีจำนวนไม่หลากหลายสักเท่าไหร่นัก อยู่ภายในวงค่อนข้างจำกัด
- ธนาคารต่าง ๆ ที่เข้าร่วมด้วย มีจำนวนจำกัดเช่นเดียวกัน จึงอาจจะยังไม่ค่อยครอบคลุมคนหมู่มาก
- แม้การใช้งานจะค่อนข้างง่าย แต่ปรากฏว่าผู้ใช้บางรายบ่นถึงการเชื่อมต่อกับบัตรที่ยุ่งยาก
- ไม่สามารถเติมเงินเข้าสู่บัญชีด้วยเงินสด
- Apple Pay รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ของแบรนด์ Apple ส่วนคู่แข่งสำคัญ อย่าง Google Pay กลับรองรับครบถ้วนในทุกอุปกรณ์
“Apple Pay Later” บริการใหม่ล่าสุด! ที่มาจากแนวคิด “ใช้ก่อน..จ่ายทีหลัง”
ภายในงาน WWDC ครั้งที่ผ่านมา ไม่เพียงแค่เฉพาะเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เท่านั้น แต่มีการเปิดตัวบริการอื่น ๆ ที่น่าสนใจด้วยเช่นกัน ซึ่งก็คือบริการ “Apple Pay Later” นั่นเอง โดยเป็นบริการที่มาพร้อมกับแนวคิด “ใช้ก่อน..จ่ายทีหลัง” ทำให้สามารถใช้จ่ายได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เพียงแต่จำเป็นต้องทยอยใช้เงินคืนทีหลัง แน่นอนว่าสามารถตั้งค่าการแบ่งจ่ายได้เป็นจำนวน 4 งวด เท่า ๆ กัน แต่กำหนดกรอบระยะเวลาเอาไว้ทั้งหมด 6 สัปดาห์ด้วยกัน ทางบริษัทจะไม่มีการคิดดอกเบี้ย หรือแม้กระทั่งค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนการติดตามสถานะการจ่ายเงินคืนนั้น สามารถทำได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน Apple Wallet
หลังจากทางค่าย Apple ได้ทำการเปิดตัวบริการ Apple Pay Later อย่างเป็นทางการ ย่อมต้องสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อแพลตฟอร์มจ่ายเงิน “Buy Now Pay Later” หรือ “BNPL” รายอื่น ๆ เป็นธรรมดา ซึ่งเดิมทีก็มีการแข่งขันดุเดือดมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การลงมาเล่นในสนามนี้ของทางค่าย Apple จึงสร้างความท้าทายไม่น้อยเลยทีเดียว บวกกับในยุคปัจจุบันโลกของเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์เงินเฟ้อรุนแรง น่าจะเป็นเหตุให้ผู้เล่น BNPL ในบางส่วน เลือกที่จะร่วมมือกับ Apple มากกว่าการเดินหน้าต่อกรด้วย ดังนั้นบริการ Apple Pay Later คงจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า โดยล่าสุดเปิดให้บริการที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว และกำลังจะทยอยเปิดให้บริการไปอีกหลายประเทศทั่วโลกตามลำดับ
“Apple Pay” เหมาะกับเราเพียงไหนกันแน่ ?
Apple Pay เป็นเรื่องใหม่สำหรับใครหลาย ๆ คน ดังนั้นการเลือกใช้บริการนี้จึงอาจจะต้องผ่านการไตร่ตรองพอสมควร แต่สำหรับคนไหนเป็นลูกค้าของทางค่าย Apple มาอยู่แล้ว มีอุปกรณ์ของแบรนด์ Apple ติดตัวเสมอ ก็แทบจะไม่เห็นเหตุผลที่ต้องเลี่ยงบริการนี้ ต่อให้ร้านค้าบางแห่งจะยังไม่รองรับการใช้งาน แต่ภาพรวมแล้วถือว่าเป็นการชำระเงินที่สะดวก และปลอดภัย อย่างยิ่ง ใครชื่นชอบการช้อปสินค้าอยู่บ่อย ๆ จึงต้องไม่มองข้ามความสำคัญ
โดยหากใครมีอุปกรณ์ทั้ง iPhone และ Apple Watch ขอบอกเลยว่ามันจะกลายเป็นสวรรค์ของบรรดาเหล่านักช้อปเสียด้วยซ้ำไป เนื่องจากช่วยให้การจับจ่ายใช้สอยนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่สำหรับคนไหนใช้งานอุปกรณ์ของแบรนด์อื่น ๆ เป็นหลัก หรือใช้อุปกรณ์แบรนด์ Apple เป็นครั้งคราว การใช้บริการ Apple Pay อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนสักหน่อย เพราะคงไม่ตอบโจทย์ดั่งที่คาดหวังเอาไว้ เผลอ ๆ ไม่แน่บางทีการสมัครเข้ารับบริการอาจเปล่าประโยชน์ก็เป็นได้ จึงต้องดูลักษณะการใช้งานของแต่ละคนประกอบกันด้วย เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตัวเรามากที่สุด