ในช่วงส่งท้ายปีแบบนี้ ทาง Underdesktop เราก็มีสิ่งดี ๆ มาแนะนำเพื่อน ๆ เช่นเคยค่ะ สำหรับสายเกมมิ่งแล้วมันจะมีอะไรดีไปกว่าการได้ครอบครองเกมมิ่งโน้ตบุ๊คดี ๆ สเปคแรง ๆ สักเครื่องว่ามั๊ยคะ และแน่นอนว่าวันนี้ทางเราก็มีเกมมิ่งโน้ตบุ๊คตัวเทพ สเปคแรงอีกตัวมาแนะนำ นั่นก็คือ MSI GF75 Thin 10SDR-287TH ซึ่งตัวนี้มาพร้อมกับ CPU Intel Core i7-10750H แบบ 6 cores 12 Threads อีกด้วย ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพการเล่นเกมเป็นอย่างมาก และนอกจากสเปกจะแรงแล้วเนี่ย อีกหนึ่งจุดเด่นของที่สำคัญเลยก็คือเค้าได้ออกแบบให้ตัวเครื่องมีความบางเบาเป็นพิเศษอีกด้วยเหมาะสำหรับการพกพาเป็นอย่างมาก จะมีข้อดีอะไรบ้างตามดูได้เลยค่ะ
Specification
CPU: Intel Core i7-10750H
RAM : 16 GB DDR4 2666MHz (2*8GB)
STORAGE : 512 GB NVMe PCIe SSD
DISPLAY: 17.3″ FHD (1920×1080), IPS-Level 144Hz Thin Bezel
VGA: NVIDIA GeForce GTX1660 Ti (GDDR6 6GB)
OS: WINDOWS 10 HOME
Design
ก่อนอื่นเลยเราต้องขอยกนิ้วให้กับการออกแบบตัวเครื่องเลยค่ะ เพราะทาง MSI เค้าขึ้นชื่อเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น Notebook รุ่นไหน ๆ ทาง MSI เค้าก็ออกแบบตัวเครื่องมาให้เราอย่างสวย และแน่นอน MSI GF75 Thin 10SDR-287TH ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยเริ่มที่วัสดุตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมขัดเสี้ยน HAIR-BRUSHED ให้ความรู้สึกเป็นโลหะที่ให้ความความแข็งแรง คงทน มาในโทนสีดำเพิ่มความรู้สึกดุดันไปในตัว และที่ขาดไม่ได้ LOGO มังกรแดง สัญลักษณ์ความเป็น gaming notebook ของ msi อยู่เด่นเป็นสง่าตรงกลางตัวเครื่อง
MSI GF75 Thin 10SDR-287TH มาพร้อมกับ เทคโนโลยี ERGONOMIC DESIGN ที่จะทำให้ตัวเครื่องถูกยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อทำการเปิดบานฝาพับ ซึ่งมีข้อดีคือ มันจะทำให้อากาศสามารถไหลผ่านตัวเครื่องได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนทำได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
มาพร้อมหน้าจอใหญ่เต็มตา เต็มจอ โดยให้มาเป็นหน้าจอ IPS FHD (1920×1080) ขนาด 17.3 นิ้ว ที่มีความเร็ว Refresh rate สูงถึง 144 Hz อีกด้วย เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ให้ความเร็ว Refresh rate มาเพียง 120 Hz ถือว่าพัฒนาให้ถูกใจคอเกมเมอร์มากยิ่งขึ้น โดยขอบจอเป็นแบบ Thin Bezel ทำให้มุมมองภาพที่ได้กว้างมากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วหน้าจอที่ให้มาหากนำไปเล่นเกมแล้วละก็ บอกเลยว่าเล่นได้อย่างลื่นไหล สบายตามากเลยทีเดียว อีกทั้งยังคงให้กล้องเว็บแคมและไมโครโฟนมาเหมือนเดิมค่ะ
โดยหน้าจอให้ขอบเขตสี sRGB 64% ด้วยความที่เป็นหน้าจอเกมมิ่งโดยเฉพาะ ขอบเขตสีที่ให้มาจึงไม่กว้างเท่าไหร่นัก ซึ่งหากใครจะนำไปใช้งานตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีมาก ๆ อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ แนะนำให้หาจอแยกที่ให้ขอบเขตสีสันกว้าง ๆ มาต่อ ก็จะสามารถใช้งานได้เหมาะกว่า แต่หากใครไม่ซีเรียสเรื่องขอบเขตสี หน้าจอตัวนี้ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สามารถใช้ทำงานตกแต่งภาพได้เช่นกันค่ะ
ถัดมาในส่วนของตัวเครื่องกับบ้าง มาในโทนสีดำ ตัดแดง พื้นผิวทำลวดลายปัดเสี้ยนไว้อย่างสวยงาม
ผสมผสานการดีไซน์ให้สมกับการเป็นโน้ตบุ๊คเกมมิ่งด้วยคีย์บอร์ดLED สีแดงสด ที่สามารถปรับแต่งความสว่างแสงไฟได้ถึง 3 ระดับ สัมผัมการพิมพ์ทำได้อย่างนุ่มมือ ถูกใจคอเหล่าเกมเมอร์แน่นอน
ตัวคีย์บอร์ดเป็นแบบ Full key มี Numpad มาให้ และการจัดวาง Layout ทำมาแบบมาตราฐานทำให้เราสามารถคุ้นชินกับตำแหน่งต่าง ๆ บนคีย์บอร์ดได้โดยง่าย อีกทั้งยังมีปุ่มลัด F7 เพื่อเข้าไปหน้าซอฟต์แวร์ MSI Dragon center ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวนี้ ก็เป็นซอฟต์แวร์เฉพาะที่ทาง MSI คิดค้นขึ้นมาเพื่อให้ใช้สำหรับการปรับแต่ง mode การทำงานต่าง ๆ ของตัวเครื่องนั้นเอง และยิ่งเราปรับ mode ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการทำงานของเครื่องมากเท่าไหร่ ตัวเครื่องก็จะสามารถรีดประสิทธิภาพออกมาได้มากเท่านั้นเลยหละค่ะ
และที่พิเศษที่สุดสำหรับ MSI GF75 Thin 10SDR-287TH ก็คือระบบปฏิบัติการอันทรงพลังที่เลือกใช้ แน่นอนว่าจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากระบบปฏิบัตใหม่ล่าสุดการจากค่าย Intel ที่ใช้แกนประมวลผลเป็น Core i7-10750H Generation 10 ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 15% ผนวกกับการทำงานคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX1660 Ti แล้วอย่างกับกิ่งทองใบหยกค่ะ เพราะการประมวลผลกราฟฟิคต่าง ๆ ทำได้รวดเร็วและสมจริงไม่เคยเป็นมาก่กอน ถูกใจคอเกมเมอร์อย่างแน่นอน
มาที่พอร์ทการเชื่อมต่อกันบ้าง แน่นอนว่ามีมาให้อย่างจุใจเลยทีเดียวค่ะ โดยตัวพอร์มการเชื่อมต่อจะอยู่ทางซ้ายและขวาของตัวเครื่อง
โดยทางด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องระบายความร้อน 1 ช่อง พร้อม port การเชื่อมต่อ 2x USB 3.1 Type-A, 1x USB 3.1 Type-C
ส่วนด้านขวาของตัวเครื่องมีช่องระบายความร้อน 1 ช่อง พร้อม port การเชื่อมต่อดังนี้ RJ45 portland, 1x USB 3.1 Type-C, 1x USB 3.1 Type-A, jack 3.5 mic and headphone, Kensington lock
โดย MSI GF75 Thin 10SDR-287TH มีช่องระบายความร้อนมาให้ถึง 4 ช่องด้วยกัน โดยคู่แรกมีตำแหน่งอยู่ระหว่างหน้าจอและตัวเครื่องซึ่ง Notebook ส่วนใหญ่ที่ Design ให้มีเทคโนโลยี ERGONOMIC มักจะทำการซ่อนช่องระบายความร้อนไว้ในส่วนนี้ค่ะ ส่วนช่องระบายความร้อนคู่ที่ 2 อยู่ระหว่างขอบซ้ายและขวาของตัวเครื่อง ซึ่งช่องระบายความร้อนทั้ง 4 ช่องนี้ ทำหน้าที่ระบายความร้อนที่ส่งตรงมาจากฟินโดยตรงเลย
โดยด้านใต้ตัวเครื่องก็ไม่ธรรมดาเพราะทาง MSI GF75 Thin 10SDR-287TH เค้าได้ออกแบบลวดลายช่องระบายความร้อนมาในแนว abtrack สวยงามเลยทีเดียว อีกทั้งเรายังสามารถมองทะลุเข้าไปในตัวเครื่องได้อีกด้วย
และบริเวณมุมซ้ายและขวามีช่องลำโพงอยู่ ซึ่งระบบลำโพงมาจาก Nahimic 3 รายละเอียดเสียงที่ได้ชัดพอสมควรค่ะ
โดยภายในตัวเครื่องก็ไม่ธรรมดานะคะ โดย MSI GF75 Thin 10SDR-287TH ได้ออกแบบระบบรายความร้อนรูปแบบใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนของ CPU และ GPU โดยใช้ระบบ Cooler boost 5 ที่มาพร้อมกับพัดลม 2 ตัว และมี Heat pipe มากให้ถึง 7 เส้น ไม่เพียงเท่านี้ยังมีคีบ Fin ระบายความร้อนอีก 4 ตัว ด้วยกัน เรียกได้ว่าจัดเต็มเลยทีเดียวค่ะ
และอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ MSI GF75 Thin 10SDR-287TH ที่ไม่พูดไม่ได้ก็คือ การออกแบบตัวเครื่องให้บางเบาเป็นพิเศษ ด้วยขนาดความหนาเพียง 22~23.1 มิลลิเมตร ถือว่าบางกว่า Gaming notebook ทั่วไปถึง 16% อีกทั้งน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น น้ำหนักเบากว่า Gaming notebook ทั่วไปถึง 15% เลยทีเดียว
โดยขนาด Adaptor ที่ให้มายังคงสไตล์ Gaming ทั่วไปคือมีขนาค่อนข้างใหญ่ อันเนื่องมาจากตัวเครื่องต้องใช้พลังงานมากนั่นเอง ไม่เพียงเท่านี้การออกแบบยังเน้นเรื่องการระบายความร้อนเป็นพิเศษ โดยให้ช่องระบายความร้อนมาถึง 4 ช่องด้วยกัน จึงหายห่วงเรื่องการระบายความร้อนได้เลย
Performance
สเปค MSI GF75 Thin 10SDR-287TH เรียกได้ว่าจัดเต็ม ประเดิมด้วยชิปประมวลผลของค่าย Intel Generation 10 ตัวใหม่ล่าสุด ด้วย CPU Intel Core i7-10750H 6 cores 12 Threads ที่มีความเร็ว Base clocks ที่ 2.6 GHz Boots clocks ที่ 5.0 GHz จากความแรงของ CPU แล้ว การนำไปเล่นเกมไม่ใช่ปัญหาเลยค่ะ เกมใด ๆ บนโลกนี้สามารเล่นได้หมดและประมวลผลได้ไวอีกด้วย ที่สำคัญยังมาสามารถนำไปทำงานด้าน Ps, Ai ได้อย่างสบาย ๆ หรือจะนำไปใช้งานที่หนักหน่อยอย่างเช่นการตัดต่อวีดีโอระดับ 4 K ด้านงานสถาปัตย์ก็สามารถทำได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว ถือว่าสุดยอดมาก ๆ สำหรับ CPU Intel core i7 ตัวนี้
และเมื่อลองเปรียบเทียบความแรงกับ CPU i7-10700 บน Desktop แล้วพบว่ามีประสิทธิภาพเทียบเท่าประมาณ 60 %
ในส่วนของการ์ดจอใช้เป็น NVIDIA GEFORCE GTX 1660 Ti แบบ GDDR6 มี Shaders ที่ 1536
ประสิทธิภาพความเร็ว SSD 512 GB PCIe/NVMe M.2 SSD มีความเร็ว Read ที 2014 MB/s ความเร็ว Write ที่ 1207 MB/s
โดยเมื่อวัดขอบเขตสีหน้าจอที่ให้มาด้วยโปรแกรม SpyderXPro 5.4 พบว่าให้มา 66% ค่ะ ถือว่าเป็นมาตรฐานของโน้ตบุ๊คเกมทั่วไปค่ะ แต่หากใครที่ต้องทำงานที่ใช้สีสันกว้างมาก ๆ เราขอแนะนำให้ต่อจอแยกจะดีกว่าค่ะ เพราะด้วยประสิทธิภาพ CPU ที่ให้มานั้นถือว่าทำงาน 2 จอได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว
สำหรับการทดสอบ CPU จาก CINEBENCH R20 ทำคะแนนได้สูงถึงที่ 2062 PTS อุณหภูมิ CPU ความร้อนสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 90-96c องศาเซลเซียส อุณหภูมิ Idle อยู่ที่ 50-60 องศาสเซลเซียส ความเร็ว CPU สูงสุดอยู่ที่ 3.3-3.4 GHz เรียกได้ว่าหายห่วงเรื่องความเร็วไปได้เลย เพราะ CPU ทำงานได้เร็ว ลื่นไหลเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่จะนำไปทำงานทางด้าน Photoshop, Illustrator, ตัดต่อวีดีโอ แนะนำตัวนี้เลยสเปคที่ให้มาเหลือ ๆ เลยค่ะ
สำหรับการทดสอบ 3D Mark Fire Strike สามารถทำคะแนนได้สูงถึง 13,296 คะแนน และมี Graphic Score อยู่ที่ 15,169 คะแนน ในส่วนของอุณหภูมิสูงสุดของ CPU อยู่ที่ 96 องศาเซลเซียส ส่วนของการ์ดจออุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 60 องศาเซลเซียสเท่านั้นทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 3.6 GHz แม้ว่าอุณหภูมิจะสูงเล็กน้อยแต่เมื่อเทียบประสิทธิภาพความเร็วแล้วถือว่าเป็นเรื่องปกติเลยค่ะ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
การเล่นเกม PUBG ทดสอบโดยการปรับกราฟฟิคไปที่ความละเอียดระดับ Ultra Full HD สามารถเล่นได้ที่เฟรมเรตเฉลี่ย 50-60 FPS เล่นได้อย่างลื่นไหล อุณหภูมิ CPU อยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส กิน CPU ไปประมาณแค่ 28% เท่านั้น อุณหภูมิการ์ดจออยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส ใช้แรมไป 9 GB เท่านั้น ใครที่กลัวว่า Notebook ตัวนี้จะดันหน้าจอ 144 Hz ไม่ไหว ก็ไม่ต้องกังวลเลย อีกทั้ง CPU ยังมีพื้นที่เหลือ ๆ ให้สามารถนำไปสตรีมเกมด้วย PUBG ได้แบบสบาย ๆ หรือต่อจอแยกเปิดโปรแกรมอื่น ๆ อีกก็ยังได้ อันนี้ต้องยกย่องให้กับ CPU Intel Core i7-10750H เค้าเลยค่ะ เพราะด้วยประสิทธิภาพของตัว CPU มีการประมวลผลที่ไวและเร็วจึงทำให้มีพื้นที่เหลือ ๆ สำหรับทำไรได้หลายอย่าง งานประมวลผลเลยเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับ Intel Core i7-10750H เลยค่ะ
การเล่นเกม Call Of Duty ทดสอบโดยการปรับกราฟฟิกไปที่ความละเอียดระดับ Full HD ระดับ high สามารถเล่นได้อย่างสบายเช่นกัน เฟรมเรตวิ่งที่ประมาณ 40-50 FPS อุณหภูมิ CPU อยู่ที่ 96 องศาเซลเซียส กิน CPU ไปประมาณ 50% อุณหภูมิการ์ดจออยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส ใช้แรมไป 12 GB เลยทีเดียว แต่ยังไงก็ถือว่าเล่นได้อย่างสบาย ๆ และการทำงานของ CPU ก็ยังเหลือเพียงพอที่จะนำไปสตรีมเกม Call Of Duty ได้อีกด้วย
โดยรวมแล้ว MSI GF75 Thin 10SDR-287TH เรียกได้ว่าเป็น Gaming notebook ที่แนะนำอีกตัวหนึ่งเลยค่ะ เพราะรูปร่างที่เพรียวบาง น้ำหนักเบา ทำให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก อีกทั้งยังมาพร้อมกับ CPU Intel Core i7 ที่บอกเลยว่าการประมวลผลต่าง ๆ ของตัวเครื่องทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ใครซื้อไปรับรองไม่มีคำว่าหัวร้อนรอเครื่องประมวลผลอย่างแน่นอน ส่วนในแง้ของการนำไปใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบดีไซน์ 2D 3D ต่างๆ ทำได้อย่างสบายเลยหละค่ะ หรือหากใครจะนำไปตัวต่อวีดีโอก็สามารถทำได้อย่างสบาย ๆ ดังนั้น MSI GF75 Thin 10SDR-287TH ถือว่านำไปใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว รวมทั้งสามารถนำไปเล่นเกมได้เกือบทุกชนิดอีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ในอนาคตหากใครคิดว่าสเปคที่มีไม่เพียงพอ ก็สามารถอัพเกรดสเปคเพิ่มเติมได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่คุ้มค่ามากเลยค่ะ หากใครสนใจก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของกันได้ ทั้งนี้หากสั่งซื้อกับทาง Banana เค้าก็มีโปรโมชันพี่เศษให้ด้วยนะคะ ช้าหมดอดไม่รู้ด้วยน้า
รายละเอียดสินค้า https://bit.ly/2JKyRlc
สนใจรุ่นอื่นๆ https://bit.ly/2K0KzbX
ข้อดี
-
CPU เร็วและแรง
-
สเปคคุ้มราคา
-
รูปร่างเพรียวบาง
-
น้ำหนักเบา
-
สามารถอัพเกรดสเปคเพิ่มเติมได้
ข้อสังเกตุ
-
อุณหภูมิ CPU ค่อนข้างสูง
-
ของเขตสีให้มาไม่กว่างเท่าไหร่ ไม่เหมาะแก่นำไปใช้งานด้านตกแต่งภาพ