นักวิจัยญี่ปุ่นจากสถาบันแห่งชาติ National Institute of Information and Communications Technology (NICT) สามารถทำลายกำแพงการส่งข้อมูลความเร็วสูงถึงระดับ 1.02 Pb/s (Petabit) ต่อวินาทีได้เป็นที่เรียบร้อย
เทียบกับของเดิมแล้ว ความเร็วใหม่นี้เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 10 Tb/s จากเมื่อการทดสอบล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2020 และสามารถส่งข้อมูลในระยะที่ไกลมากขึ้นกว่าการทดสอบเดิมเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วถึง 3 เท่า
ถ้าแปลงเป็นตัวเลขที่เข้าใจง่ายขึ้นมาหน่อย 1.02 Pb/s ก็จะเท่ากับปริมาณข้อมูลจำนวน 127,500 GB ต่อวินาที รองรับการส่งข้อมูลการสตรีมภาพที่ความละเอียด 8K ได้พร้อมกันถึง 10 ช่อง
นอกไปจากนั้นเทคนิคการส่งข้อมูลใหม่นี้ยังสามารถใช้งานได้กับโครงสร้าง Fiber Optic เดิมที่เรามีใช้งานกันอยู่แล้วได้ด้วย โดยใช้การปรับแต่งโมดิฟายเข้าไปเพิ่มเติมเพื่อให้ทำงานที่ความเร็วนี้ได้
สายแบบใหม่ที่นำมาใช้จะมีแกน Fiber Optic ภายในอยู่ 4 เส้น แตกต่างไปจากที่เราใช้งานกันอยู่แบบเส้นเดียว แต่ก็สามารถนำเอาสายเดิมมาดัดแปลงเพื่อใช้งานกับระบบใหม่นี้ได้เหมือนกัน
เทคนิคที่ใช้นั้นเรียกว่า “Wavelength Division Multiplexing” (WDM) เพิ่มขนาดแบนด์วิดธ์ขึ้นมาเป็น 20 THz ตัวสายแบ่งคลื่นความยาวออกเป็น 801 ช่องบนมาตรฐาน C-band และ L-band และ S-band ที่ยังใช้เพื่อทดลองอยู่ แล้วก็ยังมีการใช้ตัวขยายกำลังสัญญาณ Optical Amplification และเทคโนโลยี Signal Modulation Technologies เพื่อให้ได้กำลังสัญญาณที่มากพอและเสถียร
ที่มา ibit.ly/Vw0r