REVIEW – MSI RTX 2080 Ti Gaming X TRIO มังกรผงาด การ์ดสาย Overclock ราคา 46,900 บาท

MSI RTX 2080 Ti Gaming X TRIO รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายมังกรแดง ที่ขับเคลื่อนด้วย GPU สถาปัตยกรรม Turing รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Nvidia ซึ่งถือว่าเป็นการ์ดจอสำหรับเล่นเกมที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด ณ เวลานี้ มาพร้อมกับฟีเจอร์ชูโรงอย่าง Ray Tracing ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าการ์ดจอ GTX 1080 Ti ถึง 6 เท่า และการรองรับการประมวลผลแบบ Deep Learning ด้วย AI ซึ่งเป็นผลพวงจากการออกแบบสถาปัตยกรรม Turing ที่ผนวกเอา RT Core  และ Trancer Core เข้ามาทำงานร่วมกับ CUDA Core ซึ่งประสิทธิภาพ และการออกของ MSI RTX 2080 Ti Gaming X TRIO จะเป็นอย่างไร มาชมกันได้เลย

https://www.facebook.com/UnderDesktop/videos/467003640456685/

MSI RTX 2080 Ti Gaming X TRIO SPECIFICATION

• MODEL NAME GeForce^® RTX 2080 Ti GAMING X TRIO
• GRAPHICS PROCESSING UNIT NVIDIA^® GeForce^® RTX 2080 Ti
• INTERFACE PCI Express x16 3.0
• CORE NAME TU102-300A
• CORES 4352 Units
• CORE CLOCKS 1755 MHz / 1350 MHz
• MEMORY CLOCK SPEED 7000 MHz
• MEMORY 11GB GDDR6
• MEMORY BUS 352-bit
• OUTPUT DisplayPort x 3 (v1.4) / HDMI 2.0b x 1 / USB Type-C x1
• HDCP SUPPORT 2.2
• POWER CONSUMPTION 300 W
• POWER CONNECTORS 8-pin x 2, 6-pin x 1
• RECOMMENDED PSU 650 W
• CARD DIMENSION(MM) 327 x 140 x 55.6 mm
• WEIGHT (CARD / PACKAGE) 1582 g / 2450 g
• DIRECTX VERSION SUPPORT 12 API
• OPENGL VERSION SUPPORT 4.5
• MULTI-GPU TECHNOLOGY NVIDIA^® NVLINK™ (SLI-Ready), 2-way
• MAXIMUM DISPLAYS 4
• VR READY : Yes
• G-SYNC™ TECHNOLOGY : Yes
• ADAPTIVE VERTICAL SYNC : Yes
• DIGITAL MAXIMUM RESOLUTION 7680 x 4320
• ACCESSORIES 6-pin to 8-pin power cable x 1, Graphics Card Support Bracket x 1

เริ่มจากหน้าตาตัวกล่อง ซึ่งออกแบบมาได้ค่อนข้างธรรมดา เน้นโชว์หน้าตาตัวการ์ดที่มีแสงไฟ RGB เปล่งออกมา ตัดด้วยแสงสีเขียว ๆ มืด ๆ ดูแล้วไม่ค่อยคูลเท่าไร พร้อมโลโก้ GAMING X TRIO ตัดขอบด้วยแสง RGB มี X สีแดงเก๋ไก๋ อยู่ข้าง ๆ โลโก้ RTX ตัวใหญ่ส่วน 2080 Ti เล็กนิดเดียว พลิกล่องมาที่ด้านหลังก็จะมีการระบุฟีเจอร์ต่าง ๆ ทั้ง Mystic Light , พัดลมรุ่นใหม่ TORX 3.0 , และซิงค์ระบายความร้อนที่ออกแบบตามหลัก Aerodynamics นอกจากนี้ได้มีการระบุสเปคคร่าว ๆ ของการ์ดจอ ส่วนบัลเดิ้ลภายในที่แถมมาภายในกล่องนั้น จะมีที่ค้ำการ์ดจอแถมมาให้เป็นพิเศษด้วย เพราะการ์ดจอนั้นค่อนข้างหนักมาก

DESIGN

ในส่วนของหน้าตาการ์ดจอรุ่นนี้จะโดดเด่นด้วยชุดระบายความ TRI-FROZR ออกแบบมาให้เป็นการ์ดทรงยาวแบบ 3 พัดลม แตกต่างจาก GTX 10 Series ที่มักทำเป็นรุ่น 2 พัดลม ซึ่งการออกแบบชุดระบายความร้อนนั้นทำออกมาได้ดีเยี่ยม เน้นประสิทธิภาพในการระบายคอมร้อนในระดับ Overclock

บอดี้ของชุดระบายความร้อนผลิตจากวัสดุพลาสติก ABS เนื้อหนา มีการทำ Texture ให้มีลักษณะคล้ายโลหะ ตัดกับการเล่นเหลี่ยมมุม และซ้อนเลเยอร์เล่นระดับ เล่นโทนสี ทำให้ตัวการ์ดดูมีมิติสวยงาม ประกอบกับใบพัดแบบ TORX 3.0 ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบใบพัดให้มีความสวยงาม โดยเฉพาะรูปมังกร MSI กึ่งกลางใบพัดสีโครเมียมเล่นมิตินูนต่ำสวยงามมาก พัดลมมีประสิทธิภาพในการรีดลมที่ดึ ซึ่งเข้ากับบอดี้ของการ์ดจอได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือมีเทคโนโลยี Fan Stop พัดลมจะทำงานเมื่ออุณหภูมิสูงถึง 60 องศาเซลเซียส ยืดอายุการใช้งานของพัดลม และลดการสะสมของฝุ่นในตัวการ์ดได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของฟินระบายความร้อนที่ออกแบบมาตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่า โดยตัวซิงก์แบ่งออกเป็น 2 ตอนนำความร้อนด้วย Heat Pipe ขนาด 6 mm จำนวน 5 เส้น  อีกทั้งยังซิงก์ระบายความร้อนมีความหนาที่มากกว่าการ์ดจอทั่วไป ส่วนภาคจ่ายไฟและชิปแรมจะมีเพลทสำหรับระบายความร้อนแยกออกมาอยู่ที่ด้านบนระหว่าง PCB และ ซิงก์ ซึ่งจะทำให้ความร้อนกระจายตัวเข้าสู่ซิงค์ระบายความร้อนได้ดีกว่า หากรวมตัวการ์ดทั้งหมดแล้วจะกินพื้นที่ในการติดตั้งถึง 3 Slot

ในส่วนของด้านหลังการ์ดจอมาพร้อมกับ Back Plate วัสดุอลูมิเนียมเนื้อหนาสี Silver Anodized ขัดเงาเล่นพื้นผิวแบบตัดกัน พร้อมมีการเซาะร่องระบายความร้อนเพื่อเพิ่มความสวยงาม และได้มีการสกรีนโลโก้ MSI สีดำเรียบ ๆไว้ที่ด้านหลัง ซึ่งผู้รีวิวเองชอบการออกแบบ Back Plate ของการ์ดจอรุ่นนี้มาก ในส่วนของพอร์ตไฟเลี้ยงนั้น MSI ได้ให้มาถึง 3 พอร์ตแบบ 8+8+6 Pin PCIe แน่นอนว่าออกแบบมาเพื่อการ Overclock โดยเฉพาะ

ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อที่ด้านหลังตัวการ์ดมาพร้อมกับพอร์ต Display Port 3 พอร์ต, HDMI 1 พอร์ต และ USB-C 1 พอร์ตสำหรับใช้งานร่วมกับ VR Headset ซึ่งการ์ด RTX ได้ตัดพอร์ตโบราณอย่าง DVI ออกไปเรียบร้อยแล้ว ในส่วน SLI ก็ถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยและถูกแทนที่ด้วย NV-Link สำหรับเชื่อมต่อการ์ดจอ 2 ตัวเข้าด้วยกัน ซึ่งจะมีแบนด์วิธที่สูงกว่า SLI แบบเก่าถึง 5 เท่า อีกทั้งยังให้การ์ดจอสามารถแชร์แรมร่วมกันได้อีกด้วย

ในส่วนเรื่องความสวยงามนั้นต้องยกให้แสงไฟ RGB ที่ถูกติดตั้งไว้ทั้งด้านหน้า และด้านข้างของการ์ดจอ ซึ่งมีความสวยงามเข้ากับตัวการ์ดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะด้านข้างการ์ดจอที่มีโลโก้ MSI รูปมังกร และ GEFORCE RTX ถึงแม้ว่าตัวฟอนต์จะดูยาวเยอะเกินไป แต่มีการเล่นแถบไฟ RGB ทำให้ดูสวยขึ้นมาทันที ซึ่งสามารถปรับปรับแต่งแสงไฟ RGB ของการ์ดจอได้ผ่านทางซอฟแวร์ Mystic Light อีกทั้งยังสามารถ Sync แสงไฟกับเครื่องและอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ MSI ได้อีกด้วย ยิ่งถ้าหากนำการ์ดจอตัวนี้ไปใส่ในเคสแล้ว จะทำให้เคสโดดเด่นขึ้นมาเป็นอย่างมาก

สิ่งหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ขนาดของพัดลมที่มีตัวนึงเล็กกว่าตัวอื่น เพราะบริเวณนั้นเป็นจุดเชื่อมต่อ NV-Link ทำให้ติดพัดลมถ้าหากใช้ใบพัดขนาดปกติ จึงทำให้ต้องลดขนาดพัดลมลง และสามารถถอดชิ้นส่วนบริเวณนี้ออกไปได้เพื่อให้สามารถติดตั้ง NV Link ได้

โดยรวมแล้ว MSI RTX 2080 Ti Gaming X TRIO ก็เป็นพัดลมที่มีการออกแบบโดยรวมดูดี สะดุดตา และโดดเด่นด้วยไฟ RGB ส่วนประสิทธิภาพจะเป็นอย่างไร สะดีเหมือนหน้าตาหรือไม่ ตามอ่านต่อกันได้ด้านล่าางกับการทดสอบ Performance

Performance

Test Base Specicication
CPU RYZEN 5 2600X Overclock 4.3 GHz
RAM ADATA Spectrix D80 16GB BUS 3466 CL 16 16 16 36
M/B MSI B450 Gaming Plus
SSD WD Green M.2 120GB for OS Windows 10
HDD WD BLACK 500 GB For Game Install
GPU MSI RTX 2080 Ti Gaming X TRIO
PSU Corsair RM750X

ทดสอบการระบายความร้อนด้วยการ Burn ผ่านโปรแกรม Furmark 4K ซึ่งอุณหภูมิ Full Load ถือว่าเย็นมาก เพียงแค่ 70 องศาเท่านั้น

ส่วนการใช้พลังงาน Idle จะอยู่ที่ 80W และ Full Load ขณะทำการเล่นเกมจะอยู่ที่ 400W แต่ถ้าหากทำการ Benchmark หนัก ๆ ระดับ 4K ค่า Full Load จะสูงขึ้นแตะ 500W

ประสิทธิภาพในการเล่นเกม MSI RTX 2080 Ti Gaming X TRIO สามารถทำออกมาได้อย่างไม่มีผิดหวัง แน่นอนว่าการ์ดจอในระดับนี้จะต้องสามารถปรับคุณภาพกราฟฟิกได้สุดทุกเกมในระดับ Full HD เน้นภาพสวยเฟรมเรทเกิน 60 fps ทะลุ 100 fps ได้แบบสบาย ๆ และหากเปิด V-Sync ขณะเล่นเกมที่เฟรมเรท 60 fps การ์ดจอจะทำงานเพียงแค่ประมาณ 50% เท่านั้น แต่ถ้าหากเป็นการเล่นเกมระดับ AAA ที่ความละเอียด 4K นั้น การรีดเฟรมเรทให้เกิน 60fps ยังคงเป็นไปได้ยาก ต้องปรับลด Resolution Scale ลงมาในระดับปกติค่า Default จึงจะสามารถดึงเฟรมเรทขึ้นมาแตะ 60 fps ได้

แต่ในส่วนของการทดสอบการทำ Ray Tracing แสงเงาแบบอลังการที่ Nvidia ได้คุยไว้นั้น ยังคงไม่สามารถทดสอบได้เนื่องจากยังไม่มีตัวเกมที่รองรับฟีเจอร์นี้ปล่อยออกมาให้ทดสอบกันในช่วงเวลานี้ ซึ่งถาหากใครที่นำ  MSI RTX 2080 Ti Gaming X TRIO ไปเล่นเกมในระดับ Full HD 60fps ถือว่าเกินความจำเป็นอย่างมาก การ์ดจอระดับนี้ต้องใช้เล่นเกมกับจอ 144Hz ขึ้นไป หรือ 4K ปรับสุดหมด เน้นภาพสวยแบบบ้าพลังจึงจะเหมาะกับการ์ดจอตัวนี้

โดยรวมแล้ว MSI RTS 2080 Ti Gaming X TRIO เป็นการ์ดจอที่ออกแบบมาสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งถูกชูโรงด้วยเทคโนโลยี Ray Tracing แต่ ณ เวลานี้ยังไม่มีเกมที่ออกมารองรับ คาดว่า Battlefield V จะเป็นเกมแรกที่เราจะได้ทดสอบจริงจังกับการ์ดจอตัวนี้แบบเต็มประสิทธิภาพ เพราะถ้าหากตัดฟีเจอร์นี้ออกประสิทธิภาพโดยรวมก็ต่างจาก GTX 1080 Ti ไม่มากนัก ส่วนเรื่องการออกแบบนั้นถือว่าโดยรวมดูดี มีความเท่ดุดันสมกับ MSI และมีไฟ RGB เป็นดาวเด่นเสริมความสวยงามให้การ์ดและเคสได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังรองรับการ Overclock และยังสามารถระบายความร้อนดีอย่างยอดเยี่ยม แต่น้ำหนักตัวการ์ดค่อนข้างหนักไปสักนิด

ใครที่กำลังมองหาการ์ดจอ RTX 2080 Ti ในระดับท๊อป MSI RTS 2080 Ti Gaming X TRIO ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจกับราคาค่าตัวเพียง 46,900 บาท ทาง NVIDIA กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 27 กันยายนนี้ เตรียมตัวเตรียมตังกันให้ดี ๆ

ข้อดี

1. มีไฟ RGB การออกแบบสวยงาม 3 พัดลม โดดเด่น
2. ประสิทธิภาพการระบายความร้อนที่ดี
3. ออกแบบมาเพื่อการ Overclock
4. แถมที่ค้ำการ์ดจอมาให้ด้วย

ข้อสังเกตุ

1. การ์ดจอหนัก และยาว เคสเล็กระวังใส่ไม่ได้
2. ราคาสูง