สิ้นสุดการรอคอยกันเสียที ล่าสุด Gopro ได้ประกาศเปิดตัว GoPro Hero 7 พร้อมกันถึง 3 รุ่น ซึ่งรุ่นเรือธงมาพร้อมกับฟีเจอร์ระบบกันสั่นสุดเทพ HyperSmooth และหน้าจอสัมผัสขนาด 2 นิ้ว อีกทั้งยังสามารถกันน้ำได้ลึก 10 เมตร โดยไม่ต้องพึ่งพา Housing
GoPro Hero 7 Black
เรือธงของ GoPro ที่มาพร้อมกับความสามารถในการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 4K@60FPS และระบบกันสั่น HyperSmooth ที่สามารถทำให้กล้องนิ่งได้ราวกับใช้ Gimbal ส่วนตัวกล้องภายในได้มีการใส่เซ็นเซอร์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีความสามารถถ่าย Burst Mode 30 FPS และสามารถถ่ายภาพไฟล์ RAW ได้ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ SuperPhoto Auto HDR อีกด้วย
ในส่วนของการถ่ายวีดีโอนั้น ให้แบนด์วิธสูงมามากถึง 78Mbps ที่ความละเอียด 4K@60FPS นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานต่างเรียกหาคือ ช่องสำหรับต่อไมโครโฟนภายนอก และรองรับการ Live stream ซึ่ง GoPro Hero 7 Black ตัวนี้เป็นรุ่นเดียวที่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ สนนราคาอยู่ที่ 400USD หรือคิดเป็นเงินไทยราว 13,000 บาท
GoPro Hero 7 Silver
รุ่นของท๊อปที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 15FPS และถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียด 4K@30FPS ส่วนฟีเจอร์นั้นให้มาเหมือนกันทั้ง 3 รุ่น คือ โหมด Portrait สำหรับถ่ายแนวตั้งลง Instagram stories สนนราคาอยู่ที่ 300USD หรือคิดเป็นเงินไทยราว 9,700 บาท
มาพร้อมความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 15 FPS สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K@30FPS มีระบบกันสั่นวิดีโอแบบธรรมดา และฟีเจอร์ที่มีเหมือนกันทั้ง 3 รุ่นคือโหมดถ่าย Portrait แบบแนวตั้งสำหรับ Instagram stories ราคา 300 เหรียญ หรือประมาณ 9,700 บาท
GoPro Hero 7 White
รุ่นล่างสุดสำหรับต่อกรกับ Action Cam ตลาดล่าง มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ 10 ล้านพิกเซล และสามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ 1080P@60FPS สนนราคาที่ 200 USD หรือคิดเป็นเงินไทยราย 6,400 บาท
สำหรับ GoPro Hero 7 นั้นถือว่าเปิดตัวออกมาได้น่าสนใจ กว่ารุ่น Hero 6 เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของฟีเจอร์ที่ให้มา รวมถึงระบบกันสั่นที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม อีกทั้งยังซอยรุ่นย่อยออกมาเพื่อตอบโจทการใช้งานให้เหมาะความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละระดับ หวังว่า GoPro Hero 7 จะกลับมาทำกำไรให้บริษัท GoPro ฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง หลังจากเจ๊งไปกับ Karma Drone