Lenovo Legion เป็นซีรี่ส์ Notebook รุ่นยอดนิยมของ Lenovo ที่วางจำหน่ายมาอย่างยาวนานซึ่งปัจจุบันก็มาถึงรุ่น Y540 มากับสเปคและราคาที่คุ้มค่าเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือดีไซน์ที่ดูดีขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับรุ่นที่เราได้มารีวิวนั้น มาพร้อมกับ CPU ตัวแรงประจำค่าย intel core i7-9750H ที่ทุกคนรู้จักกันดีในเรื่องของความแรง คู่กับการ์ดจอ NVIDIA GTX 1650 4GB ดูแต่สเปคไม่ได้ Lenovo Legion Y540 ยังมาพร้อมกับดีไซน์จอบาง 15.6 นิ้ว Full HD และ พอร์ตเชื่อมต่อที่แน่นมาก ไปดูรีวิวกันเลยดีกว่า ว่าจะคุ้มไหมกับค่าตัว 28,900 บาท
LENOVO Legion Y540 15IRH-PG0
-
Intel Core i7-9750H
-
NVIDIA GTX 1650 4GB
-
Windows 10 Home
-
RAM 8GB DDR4 2666
-
HDD 1 TB 7200 RPM
-
SSD 256 GB NVMe
-
15.6 inch (1920 x 1080) Full HD IPS Anti Glare 60Hz
-
Weight 2.30 kg
Design
สำหรับการออกแบบของของ Lenovo Legion Y540 ดูเป็นเอกลักษณ์ของตนเองอยู่แล้ว ชนิดที่มองแล้วรู้เลยว่าเป็น Lenovo Legion Y540 สังเกตได้จากตัวหนังสือซีรี่ส์ LEGION ที่อยู่บริเวณฝาหลังที่มี LED สีขาวโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตัวเครื่องมากับวัสดุพลาสติก ABS ทั้งตัว ใช้โทนสีดำแบบขัดเงา ใช้หน้าจอแบบขอบบางจึงทำให้ตัวเครื่องดูมีขนาดเล็กกะทัดรัด
ถึงแม้จะใช้หน้าจอขอบบางทำให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกว่าปกติ แต่ก็ยังให้ปุ่ม Numpad มาให้ (บางรุ่นตัดทิ้ง) เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม มีดีกว่าไม่มี ทำให้พื้นที่ของคีย์บอร์ดแน่นเต็มพอดีเป๊ะ ซึ่งข้อดีของการมีปุ่ม Numpad แยกนอกจากจะพิมพ์ตัวเลขได้เลย ปุ่มขึ้น ลง ซ้าย ขวา ยังมีขนาดใหญ่ไม่ถูกย่อส่วน ถูกใจคอเกมที่ชอบใช้สี่ปุ่มนี้ คีย์บอร์ดจะเป็นแบบสีดำตัดกับตัวหนังสือสีขาว พร้อมไฟคีย์บอร์ดสีขาวที่ดูสวยงามปรับได้สองระดับคือสว่างน้อย และสว่างมาก ปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ด้านบนตรงกลางแยกกับคีย์บอร์ด ป้องกันการกดผิด โดยรวมแล้วเรื่องคีย์บอร์ดบอกเลยว่าถูกใจครับ
TouchPad แบบมีปุ่มคลิ๊กซ้ายขวาแยกออกมา อยู่เยื้องไปทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ขนาดกำลังพอดี แต่จะอยู่ชิดด้านซ้ายเกินไปหน่อย หากไม่ปิดการใช้งานบริเวณอุ้งมือซ้ายอาจจะลั่นไปโดนบ่อย
สำหรับวัสดุทั้งตัวเครื่อง ใช้เป็นพลาสติก ABS ให้ผิวสัมผัสแบบพลาสติกขัดด้าน ที่เล่นผิวให้ดูมีมิติสะท้อนกับแสงเป็นวงกลมไปที่คำว่า LEGION ที่มี LED สีขาวเป็นรูปตัว Y ซึ่งข้อดีของการทำฝาหลังแบบนี้คือเป็นรอยนิ้วมือได้ยากกว่าปกติ ทำให้ตัวเครื่องดูสะอาด ไม่สกปรกง่าย
สำหรับจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ Lenovo Legion Y540 คือการใช้แกนฝาพับแบบยาวเต็มหน้าจอขยับเข้ามาจากท้ายตัวเครื่องหนึ่งนิ้ว ทำให้หน้าจอสามารถกางได้มากถึง 180 องศา !! ซึ่งไม่คอ่ยได้พบฟีเจอร์นี้บน Gaming Notebook สักเท่าไรนัก ซึ่งประโยชน์ของการกางหน้าจอแบบนี้คือ สามารถแชร์ข้อมูลให้เพื่อนดูได้เลย โดยไม่ต้องหันตัวเครื่อง และใช้งานสถานการณ์ที่ต้องเอาไว้บนตัก ก็สามาถปรับได้องศาได้ตามความเหมาะสม
หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ดีไซน์ขอบบางทั้งด้านบนและด้านข้าง ทำให้กล้องหน้า Webcam พร้อมไมค์สองตัวแยกซ้ายขวาสเตอริโอ จะอยู่ที่ด้านล่างของหน้าจอตรงบริเวณโลโก้ LEGION หน้าจอความละเอียด Full HD โดยใช้หน้าจอเป็น IPS ชัดทุกมุมมอง รองรับ Refresh Rate ที่ 60Hz มีค่า sRGB ที่ 63% และ AdobeRGB 47% และ NTSC 45% ถือเป็นหน้าจอที่ใช้งานได้ปกติทั่วไป หากเน้นงานแบบกราฟิกมาก ๆ ค่าความตรงของสีอาจจะไม่ตรงมากนัก
การเรียงพอร์ตของ Lenovo Legion Y540 อาจจะไม่เหมือนรุ่นอื่น จากการจัดเต็มเรื่องพอร์ตที่ให้มาเยอะมาก ทำให้บางพอร์ตต้องย้ายไปอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง ด้านขวาของตัวเครื่องมาพร้อมกับ Port USB 3.1 , รูสำหรับ Factory Reset , LED Status แสดงตอนเสียบพอร์ตชาร์จ
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมาพร้อมกับ USB 3.1 และ Port หูฟัง และไมค์แบบ 3.5 มม.
ด้านหลังของตัวเครื่องมาพร้อมกับเรียงขวาไปซ้ายมาพร้อมกับ USB 3.1 , พอร์ต Mini Display , USB 3.1 , HDMI 2.0 , Port LAN RJ45 , AC Adapter และ Kensington Lock
ด้านใต้ตัวเครื่องมีช่องระบายอากาศเล่นลายแบบตะแกรงมีช่องทางเข้าของอากาศขนาดใหญ่ ทำให้ระบายความร้อนได้ดี เมื่อเปิดเครื่องบริเวณพัดลมจะมีไฟ LED สีแดง เล็ก ๆ ไว้เป็นอีกลูกเล่นนึง
สำหรับการระบายความร้อนของคัวเครื่องจะใช้พัดลมสองตัวดูดอากาศจากด้านล่าง และด้านข้าง เป่าออกที่ด้านหลัง ซึ่งเป็นหลักการที่ควรจะเป็น จะได้ไม่อุ่นมือกัน ลำโพงสเตอริโอซ้าย ขวาจาก HARMAN รองรับ Dolby Atmos ปล่อยเสียงออกจากด้านหน้าตัวเครื่อง
วิธีการอัพเกรดเครื่องจะต้องแกะแผ่นใต้เครื่องออกมาทั้งหมด จะเห็นพัดลมระบายความร้อนออกสองช่อง ระบายความร้อนออกด้านหลังด้วยท่อฮีทไปป์ทั้งหมด 3 เส้น สามารถเพิ่ม เพิ่มแรมได้อีก 1 ช่อง ใส่ได้สูงสุด 32 GB (16+16) ฮาร์ดดิส ขนาด 1 TB และ SSD ขนาด 256 GB ใส่ไว้ให้พร้อมใช้งานแล้ว แต่ใครที่ไม่ถูกใจสามารถปรับเปลี่ยนฮาร์ดดิสเป็น SSD ก็ได้ตามสะดวก ขนาด Adapter มีขนาดปกติทั่วไป โดยรวมแล้วน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.3 กิโลกรัม
Performance
สำหรับฮาร์ดแวร์ของ Lenovo Legion Y540 จะใช้ของค่าย intel ตัวแรงยอดนิยม ใช้ intel Core i7 9750H CPU 6 Core 12 Threads @2.6 GHz Boost Clock @4.5 GHz ซึ่งก็เป็น CPU ระดับตัว High ของ intel สำหรับแรมให้มา 8GB DDR4 Bus 2400 MHz ซึ่งเหลือให้ใส่แรมอีก 1 Slot สามารถอัพเกรดแรมได้สูงสุดที่ 32 GB
สำหรับ GPU ใช้ของ NVIDIA Geforce GTX 1650 4GB ทดสอบ 3D Mark Fire Strike สามารถทำคะแนนได้ที่ 8156 คะแนน และมี Graphic Score อุณหภูมิที่ประมาณ 70 องศา
สำหรับ SSD NVMe ที่ให้มาในเครื่องขนาด 256 GB เป็นของ Samsung ความเร็ว Read ประมาณ 3266 MB/s และความเร็ว Write อยู่ที่ประมาณ 2341 MB/s
สำหรับอุณหภูมิขณะทำการทดสอบแบบปกติ CPU อยู่ที่ประมาณ 50 °C แต่ถ้าใช้งานแบบ Full Load เลยการ์ดจอ อยู่ที่ประมาณ 70 °C อุณหภูมิสูงสุดของ CPU อยู่ที่ 95 °C ถ้าเทียบกับการเป็น Gaming Notebook ถือว่าปกติ แต่ถ้าเทียบกับ Notebook ทั่วไปก็ถือว่าแอบร้อนอยู่นิดนึง
ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่ หากใช้งานแบบทั่วไป เปิดแสงหน้าจอ 50% ปิดไฟคีย์บอร์ด พิมงาน เล่นเน็ตทั่วไป ได้ประมาณ 5 ชั่วโมง ถือว่าประหยัดพอสมควรจากการใช้หน้าจอ ถือว่าใช้ได้เมื่อเทียบกับ CPU ที่ไม่ใช่เจนประหยัดไฟ
Game
ในการทดสอบเกม ดูจากสเปคแล้วต้องเป็นเกมกราฟิกหนัก ๆ เพราะเล่นได้ทุกเกมบนโลกอย่างแน่นอน ไปที่เกมยอดฮิตในบ้านเราอย่าง PUBG ทดสอบด้วยการปรับกราฟิกไปที่ Ultra ที่ความละเอียดภาพ Full HD ทำเฟรมเรตได้สูงตามสเปคที่ 50-80 fps จาก CPU ที่แรงอยู่แล้ว และการ์ดจอที่อยู่ในระดับเกือบ High ตัวเกมใช้งานแรมอยู่ที่ 7 GB ในส่วนของแรมแนะนำให้อัพเกรดเป็น 16 GB เพราะตัวเกมค่อนข้างที่จะกินแรม ขณะเล่นเกมแรมใช้งานเกือบเต็ม 8 GB ถ้าเพิ่มเป็น 16 GB จะทำให้เล่นเกมได้ลื่นกว่านี้ และยังสามารถเปิดโปรแกรมเสริมได้อีก อย่างเช่นสตรีมเกมเป็นต้น
อีกเกมที่กินสเปคอย่าง Battle Field 5 ปรับกราฟิกระดับ High ที่ความละเอียดภาพ Full HD เปิด DirectX 12 เฟรมเรตวิ่งที่ประมาณ 55-65 FPS ถ้าเปิด V-Sync จะทำให้เฟรมเรตล็อคไว้ที่ 60 fps นิ่ง ๆ แนะนำให้เพิ่มแรมเป็น 16 GB เหมือนเดิม น่าจะทำให้เล่นเกมดีขึ้น
โดยรวมแล้ว Lenovo Legion Y540 มีจุดเด่นหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ที่ฝาหลัง สามารถกางหน้าจอได้มากถึง 180 องศา คีย์บอร์ดที่วางอัตราส่วนได้ดีมาก ถึงแม้จะมากับดีไซน์จอบาง แต่ก็ยัด NumPad มาให้ เต็มพื้นที่พอดีและขนาดของปุ่มรวมถึงสัมผัสออกมาได้ดี เหมาะกับการพิมพ์งานมากกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานบางรุ่นเสียอีก ในส่วนของพอร์ตก็จัดเต็ม ให้ USB 3.1 มาให้ 3 ช่อง + Type-C อีก และยังมีพอร์ต Lan RJ45 และ mini-display + HDMI 2.0 มาให้ในเครื่องเดียว โดยรวมเรื่องดีไซน์คือทำมาดีมาก ๆ สำหรับสเปค CPU ระดับ High และการ์ดจอที่ถือว่าใช้ได้ ซึ่งเจ้า Legion Y540 เหมาะกับคนที่ต้องการให้น้ำหนักในการใช้งานระหว่างเล่นเกม และทำงานที่เท่ากัน จากฟีเจอร์ที่ให้มาแอบเหมาะกับการทำงาน ทั้งสเปค CPU พอร์ตเชื่อมต่อ และคีย์บอร์ด แบตที่อยู่ได้ 5 ชั่วโมง สำหรับการเล่นเกมสามารถเล่นได้ทุกเกมบนโลกอย่างแน่นอน แนะนำให้เพิ่มแรมเป็น 16 GB จะให้ประสิทธิภาพได้ดีขึ้น ถือเป็น Notebook อีกรุ่นที่น่าสนใจในงบประมาณไม่เกินสามหมื่นบาท
ข้อดี
-
พอร์ตเชื่อมต่อจัดเต็มมาก ๆ
-
คีย์บอร์ดมี Numpad และมีอัตราส่วนที่ดีมาก
-
หน้าจอกางได้ 180 องศา
-
แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 5 ชั่วโมง ใน Gaming Notebook
-
ประกัน Onsite Service 3 ปี
ข้อสังเกต
-
ปุ่ม Numpad เรียงแบบแปลก ๆ ต้องใช้ไปเรื่อย ๆ ถึงจะชิน
-
หน้าจออาจไม่เหมาะกับงานกราฟิกแบบจริงจัง