อีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คยอดนิยมที่ขายดีเป็นเทน้ำเททา เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คตลาดแตกก็ว่าได้ มันก็คือ Acer Aspire 7 ที่มาพร้อมกับ CPU AMD RYZEN 7 และการ์ดจอ Nvidia GeForce GTX 1650 พร้อมหน้าจอ 144 Hz เรียกได้ว่ามันแรงมาตั้งแต่กำเนิด เกิดมาเพื่อฆ่าโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคนที่งบไม่มากแต่อยากได้โน๊ตบุ๊คที่สามารถเล่นเกมได้ และทำงานได้ ตอบโจทย์การทำงานที่หลากหลาย แน่นอนว่า Acer Aspire 7 เกิดมาเพื่อสิ่งนี่โดยเฉพาะ

Acer Aspire 7 A715-42G-R113

AMD RYZEN 7 5700U

Nvidia Geforce GTX 1650

RAM 8 GB DDR4

Display 15.6 inch

SSD 512 GB

Warranty 3 Y on site

23,900.-

Design

การออกแบบตัวเครื่อง Acer Aspire 7 A715-42G-R113 มาในแนวเรียบไม่โฉบเฉียว ดูภายนอกอาจจะไม่เชื่อว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง แต่พอได้สัมผัสเท่านั้นแหละ แม่เจ้าโว้ยของเค้าแรงจริง ๆ โดยวัสดุตัวเครื่องทำจากพลาสติกสีดำทั้งตัว ถูกเคลือบผิวมาอย่างดี ให้ความรู้สึกเมื่อสัมผัสคล้ายกับโลหะ อีกทั้งยังมีข้อดีคือตัวพื้นผิวสามารถทำความสะอาดได้ง่ายดายอีกด้วย

ตรงบริเวณบานฝาพับมีโลโก้ Acer อยู่ตรงกลาง ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ไม่โฉบเฉียวเกมมิ่งจ๋าเกินไป ทำให้เราสามารถนำไปเล่นเกมก็ได้ พกพาไปทำงานก็ดี ดูไม่เด็กจนเกินไป เอื้อให้เราสามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลายเลยหละค่ะ โดยตัวเครื่องหนาประมาณ 2.29 มล. น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.1 กิโลกรัม

ในส่วนของ Adaptor ที่ให้มาเป็นแบบ 135 w ขนาด ตัวน้ำหนักของ Adaptor อยู่ที 250 กรัม เมื่อรวมกับตัวเครื่องแล้วพบว่า มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.35 กิโลกรัม ถือเป็นน้ำหนักมาตราฐานของ โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งทั่วไป

ตัวบานฝาพับสามารถกางได้ 180 องศา

ถัดมาที่ตัวหน้าจอกันบ้าง หน้าจอที่ให้มาเป็น IPS FHD ขนาด 15.6 นิ้ว ที่มีอัตราส่วน Screen body ratio อยู่ที่ 81% อีกทั้งหน้าจอเป็นแบบผิวด้านลดการสะท้องของแสงได้เป็นอย่างดี ให้ขอบเขตสี sRGB ที่ 66% เท่านั้น หน้าจอมีความถี่ 144 Hz ถูกใจคอเกมมิ่งอย่างแน่นอนเลยหละค่ะ

ขอบจอเป็นแบบบาง บริเวณขอบบนได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมแบบ HD และ ไมโครโฟนแบบ Stereo มาให้ค่ะ

ในส่วนของจอด้านล้างมีโลโก้ Acer และ Aspire สัญลักษณ์ของรุ่นอยู่ด้านล่าง สวยงามเลยทีเดียวค่ะ

ตัว Panel keyboard เป็นแบบ Full key 104 ปุ่ม มี numpad มาให้ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย โดยบริเวณมุมขวาบนเป็นตำแหน่งของปุ่ม Power แต่ไม่ต้องกังวลว่าหากเผลอกดไปโดนเครื่องจะดับนะคะ เพราะหากเราต้องการปิดเครื่องต้องกดปุ่ม power ค้างไว้ 3 วินาทีตัวเครื่องถึงจะขึ้นให้เราสามารถทำการ Shutdown ได้นั้นเองค่ะ

ตัว Keyboard มีไฟ LED ลอดได้ปุ่มมาให้ สามารถเปิด / ปิด แสงไฟได้ ซึ่งมีข้อดีคือช่วยให้เราสามารถเห็นตัวอักษรปุ่มกดต่าง ๆ แม้จะนำไปใช้งานในที่มืดนั่นเองค่ะ ในส่วนของระยะปุ่มกดมี key travel ที่ค่อนข้างสูงให้ความรู้สึกคล้ายการกดโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งเลยหละค่ะ การวาง layout ปุ่มกด บางตัวถูกย่อปุ่มลงไป เช่นปุ่ม Arrow key ดังนั้นหากใครจะนำไปเล่นเกมจ๋า ๆ ที่ต้องใช้ปุ่มนี้ในการเล่นเกมก็อาจจะไม่ถนัดนัก เลยแนะนำให้ต่อ Keyboard แยกก็จะทำให้การเล่นเกมของเรามีอรรถรสมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของ touchpad เป็นแบบซ่อนปุ่ม ถูกวางไว้เยื้องไปทางซ้ายมือเล็กน้อย ถูกเคลือบผิวสัมผัสมากอย่างดี การ Touch ทำได้อย่างลื่นไหล และที่พิเศษก็คือ บริเวณมุมซ้ายมือของ Touchpad ได้ติดตั้งแถบสแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย เพิ่มความ Security ให้กับตัวเครื่องไปอีกหนึ่งระดับ

ในส่วนของสติ๊กเกอร์ด้านซ้ายมาพร้อม สติ๊กเกอร์ AMD 7, NVIDIA GEFORCE GTX, และ การันตี Service 3 ชม. ส่วนทางด้านขวาของตัวเครื่อง จะเป็นสติ๊กเกอร์ feature ต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับเครื่องไม่ว่าจะเป็น ขอบจอบางแบบ Narrow bezel, หน้าจอแบบ FHD, แสงไฟ keyboard, รองรับ Wi-FI 6 รุ่นใหม่ล่าสุด และรอบรับ Port HDMI

ในส่วนของ port การเชื่อมต่อกันบ้าง บอกเลยว่ามีมาให้อย่างจุใจ

2 x USB 3.2 มีหนึ่งตัวที่เป็น Power delivery ที่เราสามารถใช้เป็น powerbank ให้อุปกรณ์อื่น ๆ ได้แม้ในขณะที่ตัวเครื่องทำการ Shutdown อยู่

1 x USE type C 3.2

1 x HDMI

1 x RJ45 Portland

1 x Kensington lock

1 x Jack 3.5 mic and headphone combo

1 x USB 2.0

ในส่วนของช่องระบายความร้อนให้มา 2 จุดด้วยกันคือ ด้านข้างตัวเครื่อง และ ด้านหลังตัวเครื่องอีก 1 จุด ซึ่งช่องระบายความร้อนที่ติดตั้งไว้ด้านหลังตัวเครื่องทำออกมาขนาดใหญ่ เมื่อมองลอดเข้าไปจะเห็นฟินระบายความร้อนมีทองแดงสวยงาม

ในส่วนของตัวเครื่องด้านใต้ ได้เจาะช่องดูดลมเข้าขนาดใหญ่เอาไว้ เมื่อมองทะลุเข้าไปจะเห็นผัดลมระบายความร้อน 2 ตัวและชุดท่อระบายความร้อนอย่างชัดเจน

ในส่วนของช่องลำโพง เป็นแบบ Stereo ติดตั้งไว้ด้านใต้ตัวเครื่องอยู่บริเวณมุมซ้าย / ขวา ของตัวเครื่อง เสียงที่ได้บอกเลยว่าเน้นเสียงเบสเป็นอย่างมาก ส่วนรายละเอียดเสียงที่ได้ค่อนข้างโอเคเลยหละค่ะ

มาดูภายในตัวเครื่องกันบ้าง สถาปัตย์ภายในมาพร้อมกับชุดระบายความร้อนพัดลม 2 ตัว มี Heatpipe 3 เส้นทำหน้าที่ระบายความร้อนจาก CPU ส่งมายังชุดฟินระบายความร้อนขนาดใหญ่ และมีพัดลมทำหน้าที่เป่าลมร้อนออกจากตัวเครื่อง แต่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าเอ้ ชุดระบายความร้อนเท่านี้จะเพียงพอหรือไม่ ก็ขอบอกตรงนี้เลยว่า CPU ที่ให้มาแม้จะเป็น Ryzen 7 แต่เป็นตัวที่ลงท้ายด้วยรหัส U นั้นหมายความว่าเป็น CPU ที่เน้นในเรื่องการประหยัดพลังงานและกินไฟน้อยเป็นพิเศษ ดังนั้นตัวมันเองจึงปล่อยความร้อนต่ำมาก การออกแบบชุดระบายความร้อนเท่านี้ถือว่าค่อนข้างสมเหตุสมผล แต่ส่วนประสิทธิภาพการระบายความร้อนจะเป็นอย่างไป ดูต่อที่ผลเทส Performance ได้เลยค่ะ

ในส่วนของ SSD ให้มาแล้ว 512 GB ไม่สามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้ ส่วนแบตเตอรี่ที่ให้มาเป็นแบบ 3 เซลล์ ที่บอกเลยว่าอึดมาก ๆ จะอึดแค่ไหนสามารถดูได้ที่ผลเทสได้เลยค่ะ

การอัพเกรด สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

ตัวเครื่องมี RAM มาให้แล้ว 8 Gb มีช่องให้ใส่ได้เพิ่มอีก 1 Slot ค่ะ ซึ่งอย่างที่เรารู้ ๆ กันว่า CPU Ryzen จะทำงานได้ดีเมื่อเราใส่ RAM แบบ Duo คู่ขนาดกันไป ดังนั้นหากใครซื้อไปแล้วอยากดึงประสิทธิภาพตัว CPU ออกมาใช้อย่างเต็มที ทางเราก็ขอแนะนำให้เพิ่ม RAM เป็น 16 Gb ค่ะ

การออกแบบโดยรวมถือว่าทำออกมาได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว ถือเป็นโน๊ตบุ๊คที่คุ้มค่า คุ้มราคาเป็นอย่างมาก ส่วนประสิทธิภาพจะเป็นยังไงดูที่ผลเทส Performance ต่อได้เลย

Performance

Acer Aspire 7 A715-42G-R113 มาพร้อมกับ CPU AMD RYZEN 7 5700U เทคโนโลยี 7 nm ตัวนี้เป็นแบบ 8 Cores 16 threads เลยทีเดียว Caches L 3 ให้มาที่ 8 MBytes ในส่วนของ RAM ให้มา 8 GB DDR4 3200 Mz แบบ Single channel เป็นของ SK Hynix ส่วน SSD ให้มาแล้ว 512 GB

ในส่วนของการ์ดจอมี 2 ตัว คือ NVIDIA Geforce GTX 1650 และ AMD Radeon onboard

เมื่อทดสอบเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง CPU AMD Ryzen 7 5700U เทียบกับ Intel core i7-10700 บน Desktop พบว่าประสิทธิภาพต่างกับเพียงแค่ 9% เท่านั้น โอ้แม่เจ้า เรียกได้ว่าเกือบจะเทียบเท่ากันเลยทีเดียวค่ะ ถือว่าแรงมาก ในส่วนของความแรง Single test ต่างกันแค่ 1% เท่านั้น ถือว่า Ryzen7 5700U ทำออกมาได้แรงแบบไม่ธรรมดาเลยทีเดียวค่ะ คุ้มค่าแก่ราคาเป็นอย่างมาก

ตัวการ์ดจอเป็นของ NVIDIA Geforce GTX 1650 เทคโนโลยีการผลิต 12 nm มีคูดาร์คออยู่ที่ 896 หน่วย Ram ให้มาที่ 4 GB แบบ GDDR6 ในส่วนของความเร็ว Boost สูงสุดอยู่ที่ 1515 MHz และความเร็ว Memory อยู่ที่ 1500 MHz

ในส่วนของ SSD ให้มา 512 GB ที่มีความเร็ว Read ที 2803 MB/s ความเร็ว Write ที่ 2544MB/s ถือว่ามีความเร็วพอสมควร

ในส่วนของการทดสอบแบตเตอรี่ด้วย Program Battert monitoring พบว่าตัวแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 6-7 Hr. เลยทีเดียว ถือว่าสูงกว่า Gaming notebook รุ่นอื่น ๆ พอสมควร

สำหรับการทดสอบอุณหภูมิด้วย CINEBENCH R20 พบว่าตัวเครื่องมีอุณหภูมิ Idle อยู่ที่ 40-50 องศาสเซลเซียส และเมื่อเริ่มทำการทดสอบพบว่าอุณหภูมิวิ่งสูงสุดอยู่ที่ 72 องศาเซลเซียสเท่านั้น และใช้พลังงานไปเพียงแค่ 38 Watt บนความเร็ว Clock speed ที่ 3.5 GHz โอ้โหจะเห็นได้ว่าอุณหถูมิตัวเครื่องนั่นต่ำมากแถมยังทำความเร็ว CPU ได้สูงอีกด้วย สุดยอดไปเลยค่ะ และยังทำคะแนนได้สูงถึง 3812 pts อีกด้วย เรียกได้ว่า CPU ตัวนี้ ให้ประสิทธิภาพเกินคุ้มจริง ๆ

การเล่นเกม PUBG ทดสอบโดยการปรับกราฟฟิคทั้งหมดเป็นระดับ Ultra Full HD พบว่าสามารถทำเฟรมเรตเฉลี่ยขณะเล่นเกมได้ที่ 60-70 FPS บนพื้นที่ป่า ในขณะที่วิ่งในเมืองสามารถทำเฟรมเรตได้ถึง 80-9- FPS เลยทีเดียว ใช้งาน CPU ไป 28-30% เท่านั้น อุณหภูมิ CPU อยู่ที่ประมาณ 70 องศาเซลเซียส ซึ่งเราสามารถนำพื้นที่ CPU ที่เหลือนี้ไปสตรีมเกมได้อย่างสบาย ๆ ในส่วนของ RAM กินไปเพียง 6.8 GB แต่หากใครจะนำไปเล่นเกมเราก็ขอแนะนำให้เพิ่ม RAM เป็น 16 GB แบบ Duo Channel ค่ะเพราะว่าตัว CPU Ryzen จะสามารถดึงประสิทธิภาพออกมาได้ดีที่การใช้ RAM แบบ Duo channel นั้นเอง ส่วนของอุณหภูมิการ์ดจอจะอยู่ที่ประมาณ 61 องศาเซลเซียสเท่านั้น

มาต่อที่การเล่นเกม Battle field 5 ขึ้นชื่อการกินสเปค RAM เป็นอย่างมาก ทดสอบโดยการปรับกราฟฟิกไปที่ความละเอียดระดับ Low เปิด DX12 ความละเอียดที่ FHD ปิด V sync สามารถเล่นได้อย่างสบายเช่นกัน เฟรมเรตวิ่งที่ประมาณ 40-70 FPS แต่ถ้าหากอยากให้เฟรมเรตนิ่ง ๆ แนะนำให้เปิด V sync ก็จะสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น กิน CPU ไปประมาณ 60-70% อุณหภูมิ CPU สูงสุดที่ประมาณ 86 องศาเซลเซียส ในส่วนของ RAM บอกลยว่าเกมนี้กิน RAM โหดมากอย่างน้อย ๆ ถ้าต้องการเล่นอย่างลื่นไหลต้องมี RAM ขั้นต่ำประมาณ 16 GB แต่ด้วยตัวเครื่องเรามี RAM เพียงแค่ 8 GB ก็อาจจะกระตุกบ้างสักเล็กน้อย ส่วนอุณหภูมิการ์ดจออยู่ที่ 65 องศาเซลเซียส โดยรวมถือว่าเล่นได้อย่างสบาย ๆ ค่ะ

โดยรวมแล้วถือว่า Acer Aspire 7 ทำออกมาได้เกินคุ้มราคาค่าตัวเลยทีเดียวค่ะ ด้วยสเปคที่ให้มาถือว่าแรงมากสามารถนำไปทำงานได้อย่างสบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการตัดต่อวีดีโอ กราฟิค 2D เอาไปเขียน program หรืองานอะไรก็แล้วแต่ที่ต้องใช้การ Rendor ถือว่า Acer Aspire 7 สามารถทำงานได้อย่างสบาย ๆ หรือจะนำไปเล่นเกมก็สามารถทำได้เช่นกัน หากนำไปเล่นเกม Battle field 5 ได้ เกมอื่น ๆ บนโลกก็สามารถเล่นได้แน่นอนค่ะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คที่แนะนำให้ซื้อเลยทีเดียว ด้วยราคาค่าตัวเพียง 23,900 บาท กับคุณภาพที่ให้มาบอกได้เลยว่าเกินคุ้มแน่นอน

ข้อดี