หยุดก่อน! หากคุณกำลังจะซื้อเกมมิ่งโน้ตบุ๊ค กรุณาอ่านบทความนี้ให้จบก่อนที่คุณจะพลาดอะไรบางอย่างไป เพราะในปี 2020 นี้ โน้ตบุ๊คเกมมิ่งรุ่นใหม่ถูกปล่อยออกมาวางจำหน่ายกันอย่างมากหน้าหลายตา ทำให้เราเลือกกันลำบากเลยทีเดียวว่าเกมมิ่งโน้ตบุ๊คเครื่องไหนจะตรงใจเรามากที่สุด แน่นอนว่าไม่มีใครตัดสินใจให้คุณได้ ดังนั้นเราจะมาบอกถึง 10 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อเกมมิ่งโน้ตบุ๊คในปี 2020
1. ต้องมี SSD
บอกเลยว่า “ซื้อโน้ตบุ๊คไม่มี SSD = ประหาร” เพราะว่าเราอยู่ในปี 2020 แล้ว ปีที่ SSD 500 GB ราคาไม่ถึง 2,000 บาท ดังนั้นใครคิดจะซื้อโน้ตบุ๊คเกมมิ่งที่ยังคงใช้ฮาร์ดิสก์แบบจานหมุนอยู่ละก็…เลิกคุยกันเลยดีกว่า ถึงแม้โน้ตบุ๊คของคุณจะมี CPU หรือการ์ดจอแรงสักแค่ไหน แต่เจออิทธิฤทธิ์ของฮาร์ดดิสก์จานหมุนเข้าไป มันก็ไม่ต่างอะไรกับโน้ตบุ๊คยุคโบราณแน่นอน หรือจะซื้อโน้ตบุ๊คฮาร์ดดิสก์แล้วไปอัพ SSD เพิ่มก็บอกเลยว่าไม่คุ้มเท่าเราเอาโน้ตบุ๊ค SSD ไปอัพฮาร์ดดิสก์หรือ SSD SATA 2.5 นิ้วเพิ่มจะดีกว่า ดังนั้นซื้อโน้ตบุ๊คในยุคปัจจุบันนี้ ควรมี SSD ขั้นต่ำ 500 GB เท่านั้น
2. แรม 16 GB เท่านั้น
เลือกเกิดมาเป็นโน้ตบุ๊คเกมมิ่งทั้งที ถ้ามีแรมแค่ 8 GB ก็เสียชาติเกิดซะเปล่า เพราะยุคปัจจุบันนี้แค่เปิดเครื่องขึ้นมา เข้า Chrome แค่ 2-3 แท็บ แรม 8 GB ก็แทบจะเต็มแล้ว เรื่องเล่นเกมก็ไม่ต้องไปพูดถึง… กระตุกแน่นอน ถ้าเป็นเกมฮิต ๆ ในยุคนี้อย่าง Call of Duty Warzone, PUBG, Battlefield V หรือเกมระดับ AAA ทั้งหลาย หรือจะเป็นการทำงานพวก Photoshop, Illustrator, Lightroom, Premier Pro ใช้แรมทะลุ 8 GB แน่นอน ดังนั้นเมื่อซื้อเกมมิ่งโน้ตบุ๊คมา ก็ควรอัพแรมให้เป็น 16 GB ถึงจะสามารถใช้งานตัวเครื่องได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด
3. จอขั้นต่ำ 120 Hz
คิดที่จะเป็นเกมเมอร์ แต่ยังคงใช้จอ 60 Hz ก็เหมือนเราเป็นนักวิ่ง แต่ดันไปวิ่งเท้าเปล่าแข่งกับเค้า บอกเลยเสียเปรียบสุด ๆ หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็เช่นกัน เพราะว่าหน้าจอ 120 Hz จะช่วยให้ภาพในการเล่นเกมมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ทำให้เราสามารถตอบสนองการเล่นเกมได้มีมากขึ้นด้วย ดังนั้นถ้าไม่อยากเสียเปรียบใคร ก็จงเลือกใช้โน้ตบุ๊คเกมมิ่งที่มีหน้าจอไม่ต่ำกว่า 120 Hz แล้วก็อย่าลืมปรับกราฟฟิกของเกมให้เหมาะสม เพื่อให้ได้เฟรมเรทที่สูงพอกับหน้าจอด้วยนะ
4. พอร์ต USB เยอะๆ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่มีอุปกรณ์ที่ใช้ USB ติดตัวกันแทบตลอดเวลา ดังนั้นพอร์ต USB ของโน้ตบุ๊คเกมมิ่งย่อมสำคัญเช่นกัน เพราะว่าจะทำให้สามารถรองรับ อุปกรณ์ USB เยอะขึ้น ซึ่งโน้ตบุ๊คเกมมิ่งยุคนี้ก็ควรจะมี USB ไม่ต่ำกว่า 3 พอร์ต พร้อม USB Type-C ด้วย ส่วนมาตรฐานความเร็วต้องเป็น USB 3.1 ขึ้นไป ในทุกวันนี้เราจะพบเห็นโน้ตบุ๊คเกมมิ่งบางแบรนด์ที่แอบหมก USB 2.0 ใส่เข้ามาด้วย ซึ่งมันโอนถ่ายข้อมูลได้ช้ามาก ๆ ส่วนบางเครื่องยังให้ USB มาแค่ 2 พอร์ต บอกเลยว่าแค่เสียบเมาส์กับคีย์บอร์ดก็เต็มแล้ว แล้วถ้าอยากเสียบแฟลชไดร์จะเอารูที่ไหนมาเสียบเพิ่ม ดังนั้น USB ก็คือสิ่งสำคัญที่เราควรนำมาพิจารณาด้วย
5. CPU รุ่นใหม่
จะซื้อโน้ตบุ๊คเกมมิ่งเครื่องใหม่ทั้งที จะไปซื้อทำไมของตกรุ่น เว้นเสียแต่ว่ามันถูกมากกกกกกก สำหรับคนที่เป็นเกมเมอร์เลือกซื้อโน้ตบุ๊คเกมมิ่งให้ดูจากสัญลักษณ์ Intel Core i gen 10 ทั้ง CPU Intel Core i5 และ i7 เห็นสติ๊กเกอร์โฮโลแกรมเหลี่ยม ๆ เทา ๆ นั้นแหละใช่เลย รุ่นใหม่แน่นอน เพราะว่า Intel Core i gen 10 เน้นประสิทธิภาพการเล่นเกมด้วย Core Speed ของ CPU ที่สูงมาก ดังนั้นถ้าหากจะซื้อมาเล่นเกม หยิบ Intel ไม่มีผิดหวังแน่นอน
6. มาพร้อม Windows แท้
อาจจะไม่ต้องใส่ใจตรงนี้ก็ได้ เพราะโน้ตบุ๊คยุคนี้ทุกเครื่องล้วนมาพร้อมกับ WIndows 10 แท้กันหมดแล้ว แต่ที่ต้องบอกไว้ก็เพราะบางคนอาจจะไม่ทราบ และไปบอกให้ที่ร้านลง Windows ให้ ถ้าร้านดีก็ดีไป แต่ถ้าเจอร้านมหาประลัยก็หวานหมู รับเงิน 300 บาท ไปลง WIndows ให้แถมโปรแกรมเถื่อนมาเต็มเครื่อง บอกเลยว่าโน้ตบุ๊คของคุณอายุสั้นแน่นอน ใช้ไปได้ไม่นานโน้ตบุ๊คก็จะรวนต้องนำมาลง Windows ใหม่ เสียตังฟรีแถมยังได้ของไม่ดีกลับมาแบบนี้ อย่าไปหาทำเชียว
7. อัพเกรดได้
ซื้อโน้ตบุ๊คยุคนี้ อย่าลืมเผื่ออนาคตเอาไว้ด้วย เพราะยิ่งเราใช้งานไปนาน ๆ ข้อมูลก็จะเยอะขึ้น ต้องการพื้นที่จัดเก็บมากขึ้น หรือต้องการใช้โปรแกรมเฉพาะทาง และเล่นเกมหนัก ๆ ทำให้ต้องใช้แรมมากขึ้น ดังนั้นโน้ตบุ๊คของคุณต้องรองรับการอัพเกรดเพิ่มเติมในอนาคตด้วย ขั้นต่ำควรมีสล๊อตแรมเปล่า 1 ช่อง และช่องสำหรับติดตั้ง HDD หรือ SSD ขนาด 2.5 นิ้วได้
8. ขนาดหน้าจอ
มาตรฐานคนไทยล้วนมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป จะเล็ก จะใหญ่ ใครชอบไซส์ไหนก็เรื่องของแต่ละคน ตอนนี้พูดถึงเรื่องขนาดหน้าจอนะ ในยุคนี้โน้ตบุ๊คเกมมิ่งมีหน้าจออยู่ 3 ขนาด ได้แก่ 14.0 นิ้ว, 15.6 นิ้ว และ 17.3 นิ้ว ถ้าหากใครชอบตัวเล็กพกง่ายขนาด 14 นิ้วกำลังดี ส่วนขนาดยอดนิยม ไซส์กำลังดี คีย์บอร์ดใหญ่ ใช้งานสะดวกก็ต้องขนาด 15.6 นิ้ว และถ้าหากใครชอบจอจอใหญ่เต็มตาก็ต้อง 17.3 นิ้ว แต่ตัวเครื่องก็มีขนาดใหญ่ และน้ำหนักมาก และก็อย่าลืมดูด้วยว่าเป็นจอขอบบางหรือไม่ เพราะขอบจอยิ่งบางทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลงมากนั่นเอง
9. ประกันดี
ซื้อโน้ตบุ๊คเกมมิ่งเลือกที่หน้าตา และสเปคถูกใจอย่างเดียวไม่ได้ อย่าลืมดูเรื่องการรับประกันด้วย เพราะเห็นหลายคนพลาดกันมาเยอะแล้วเลือกโน้ตบุ๊คได้ถูกใจ เกิดเสียขึ้นมาก็ต้องเอาไปเคลม ทีนี้ละเคลมช้า เคลมนาน เคลมไม่จบ มีปัญหากันอยู่ร่ำไป แบรนด์ไหนดีที่สุดคงมิอาจจะไปเอ่ยถึงได้ ทางที่ดีที่สุดคือไปหาข้อมูลตามกลุ่ม หรือเว็บบอร์ดต่าง ๆ เพื่อเช็ควีรกรรมการให้บริการหลังการขายของแต่ละแบรนด์ดูสิว่า แบรนด์ไหนชื่อเสียน้อยที่สุด
10. โปรโมชั่น
ซื้อโน้ตบุ๊คเกมมิ่งยุคนี้ อย่าลืมดูโปรโมชั่นด้วย เพราะแต่ละแบรนด์ขายโน้ตบุ๊คเกมมิ่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องขายโปรโมชั่นที่โดนใจคนซื้อด้วย ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจ เราควรเช็คให้ชัวร์ ส่วนลด โปรโมชัน และของแถม มีอะไรบ้าง บางครั้งก็มีส่วนลดพิเศษราคาสุดคุ้ม หรือจะเป็นแถมเกมเมอร์ซื้อโน้ตบุ๊คที่ใช้การ์ดจอค่ายนั้น CPU ค่ายนี้ อีกทั้งแถมเสื้อ กระเป๋า แฟลชไดร์ แรม ฯลฯ เช็คให้ชัวร์ทำให้ถูกกติกา เมื่อเราซื้อโน้ตบุ๊คเกมมิ่งเครื่องนั้นไปแล้วแล้วจะได้ไม่รู้สึกหลังหักในภายหลัง
ผ่านไปแล้วกับ 10 ข้อควรรู้ก่อนซื้อโน้ตบุ๊คเกมมิ่ง ถ้าหากใครมั่นใจแล้วว่าโน้ตบุ๊คเครื่องไหนที่ใช่สำหรับเรา ก็จงจัดไปอย่าให้เสีย แล้วอย่าเสียใจในภายหลังเพราะว่าเราได้ศึกษามาดีแล้ว ไม่มีโน้ตบุ๊คเครื่องไหนในโลกนี้ที่เพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง มันต้องมีทั้งขอดีและข้อเสียกันบ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราก็ได้คู่หูใหม่ที่จะอยู่กับเราไปอีกยาว ๆ ดังนั้นได้มาแล้วก็อย่าลืมดูแลโน้ตบุ๊คเกมมิ่งของเราให้ดี ๆ และใช้งานเค้าให้เต็มที่นะครับ